กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – รมช.เกษตรฯ เอาตำแหน่งเป็นประกัน ยอมติดคุกแทนประธานมูลนิธิข้าวขวัญ มั่นใจสกัดกัญชาเพื่อรักษาโรค ยอมเสี่ยงช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เดือดร้อน
นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ซึ่งจะถูกดำเนินคดีกรณีมีกัญชาและสารสกัดจากกัญชาไว้ในครอบครอง ว่า อยากให้ทุกฝ่ายทั้งรัฐบาล นักวิชาการ นักการเมือง และผู้มีความรู้ตั้งคณะกรรมการหรือทีมงานสนับสนุนช่วยเหลือนายเดชาให้ได้ผลิตยาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และไม่ให้กฎหมายเป็นอุปสรรค ทั้งนี้ กฎหมายมีไว้เป็นเครื่องมือให้คนทำดีเพื่อสังคมอยู่กันอย่างสงบร่มเย็น ไม่ได้มีไว้บังคับคนไม่ให้ทำความดี หวังให้อำนาจทางความรู้จะไปสนับสนุนงานของนายเดชาให้ช่วยเหลือคนได้มากขึ้น
“รับประกันในความตั้งใจดีของอาจารย์เดชาจะรับรองไปที่รัฐมนตรีทุกคนในคณะรัฐมนตรี เอาตำแหน่งไปแลกเลย ถ้าอาจารย์เดชาผิดเอาตำแหน่งไปเลย ถ้าปกป้องอาจารย์เดชาไว้ได้จะทำให้สามารถช่วยเหลือคนจำนวนมาก เอาชีวิตไปแลกหรือติดคุกแทนยังทำได้เลย ควรให้คนที่มีความรู้ที่สุด เสียสละที่สุดอยู่ทำงานต่อไป คนอย่างอาจารย์เดชาเสียสละมานาน เป็นคนซื่อตรงและมีชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมาโดยตลอด มีเมตตา แม้อายุกว่า 70 ปีแล้วยังคอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เรียกว่าเป็นผู้มีหัวใจโพธิสัตว์ เห็นใครเดือดร้อนก็อยากช่วยเหลือ แม้รู้ว่าช่วยเหลือแล้วเสี่ยงเพราะกฎหมายไม่เอื้อ ทำยาแจกคนยากคนจนและคนทุกข์เข็ญเพราะยากที่จะไปซื้อยามารักษาโรคร้าย โดยเฉพาะโรคมะเร็ง” นายวิวัฒน์ กล่าว
นายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่า กัญชาเป็นสมุนไพรที่ควรได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจัง รัฐควรมีมาตรการบางอย่าง แต่ไม่ใช่เหมาห้ามไปทั้งหมด อีกทั้งไม่ใช่ห้ามคนที่สกัดปรุงยาช่วยเหลือคนอื่น เชื่อว่าการจับกุมครั้งนี้เกี่ยวข้องกับบริษัทผลิตยา เพราะหากชาวบ้านรวมตัวกันผลิตยาได้เองทั้งประเทศบริษัทยาจะอยู่ยาก นอกจากนี้ ระบบบริการทางการแพทย์ประชาชนที่ยากจนเข้าถึงได้ช้า ชาวบ้านจึงลุกขึ้นพึ่งตนเอง การปฏิรูปที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ การทำให้คนทั้งประเทศลุกขึ้นรักกันสามัคคีกันโดยช่วยกันสร้างปัจจัยที่จำเป็น อย่าทิ้งให้ใครอดอยาก อย่าทิ้งให้ใครทุกข์เข็ญอยู่ข้างหลัง ถือว่านายเดชาเสียสละทำให้คนทั้งประเทศได้เห็นเพราะทุกคนมีสิทธิ์เจ็บป่วยเหมือนกันหมด ถึงเวลาที่ประชาชนจะรวมตัวกันพึ่งตนเองให้ได้.-สำนักข่าวไทย