กรุงเทพฯ 23 พ.ย. – กรมหม่อนไหมผลักดัน “น่านโมเดล” ผลิตไหมอุตสาหกรรมรังเหลืองในระบบเกษตรพันธสัญญาตามนโยบายตลาดนำการผลิต ผู้ประกอบการทำสัญญารับซื้อรังไหมให้ราคาแน่นอน
นายปราโมทย์ ยาใจ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า อยู่ระหว่างเตรียมการร่วมกับบริษัท จุลไหมไทย จำกัด ซึ่งจะรับซื้อรังไหมจากเกษตรกร ต.หนองแดง อ.แม่จริม จ.น่าน ในระบบเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) โดยบริษัทจะเข้าส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เมื่อได้ผลผลิตจะรับซื้อราคาที่ตกลงกันไว้ มอบหมายให้ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ น่าน ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้การผลิตไหมอุตสาหกรรมรังเหลืองดำเนินการ เรียกว่า “น่านโมเดล”
ที่ผ่านมาบริษัทจุลไหมไทยต้องการรับซื้อทั้งไหมรังเหลืองและรังขาวทั่วประเทศถึง 5,000 ตัน แต่เกษตรกรสามารถผลิตได้เพียง 2,000 ตัน จึงเห็นควรดำเนินการในจังหวัดน่าน ซึ่งมีความพร้อม โดยจะรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อแบ่งปันและสร้างความเข้มแข็ง ถ่ายทอดองค์ความรู้ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ น่านสนับสนุนพันธุ์หม่อนและไข่ไหมให้เกษตรกรเลี้ยงและประสานการวางแผนการผลิต รวมทั้งกำหนดราคารับซื้อรังไหมที่เป็นธรรมทั้งแก่เกษตรกรและบริษัทเอกชน ส่วนบริษัทจะถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงไหมวัยอ่อนได้ แล้วมารับซื้อในพื้นที่ทำให้ลดความเสี่ยงจากการขนส่ง ช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายในการขนส่งไหมวัยอ่อน
ทั้งนี้ ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ น่านส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรมให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดน่าน พะเยา และเชียงรายตั้งแต่ปี 2535 มีเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นอาชีพหลักมากขึ้น ปัจจุบันมีเกษตรกรประมาณ 600 ราย และมีเกษตรกรที่จดทะเบียนในระบบเกษตรพันธสัญญาแล้ว 310 ราย ส่วนซื้อขายรังไหมอุตสาหกรรมใน 3 จังหวัดนั้น สร้างรายได้มากกว่าล้านบาทต่อรุ่น คาดผลผลิตรังไหมตลอดปี 2563 จำนวน 70 ตัน และสร้างรายได้รวมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ส่วนปี 2564 คาดว่าจะสามารถซื้อขายรังไหมได้ 80 ตัน และสร้างรายได้รวมให้กับเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 13 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย