เสวนาโต๊ะกลมชี้คำสั่งปลดล็อคหวังเซ็ตซีโร่ส.ส.เก่า

สมาคมนักข่าวฯ 24 ธ.ค.-เวทีเสวนาการเมืองชี้เลือกตั้งครั้งหน้ายังอึมครึม คำสั่งคสช.53/60 ขัดหลักนิติธรรม หวังเซ็ทซีโร่ ส.ส.เก่า


สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยจัดเสวนาโต๊ะกลมสาธารณะ ครั้งที่ 2/1 หัวข้อ บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร  ตอน  “รัฐธรรมนูญ-การเลือกตั้งครั้งแรกสู่ประชาธิปไตย” โดยมี นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำภาควิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)  นายชวลิต  วิชยสุทธิ์ อดีต ส.ส.เพื่อไทยและนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ร่วมแสดงความคิดเห็น

นายจุรินทร์ กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งที่ 53/ 2560 เรื่องการดำเนินการตามกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เมื่อวันที่  22 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาว่า ทุกครั้งที่ลงพื้นที่มักจะได้รับคำถามจากประชาชนว่าจะเลือกตั้งหรือไม่และจะมีเมื่อใด ซึ่งตอบได้แต่เพียงว่ามีการเลือกตั้งแน่นอน แต่เมื่อใดไม่ทราบ ส่วนตัวมองว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นตามโรดแมปยังอึมครึม เพราะแม้จะมีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายกกต.และกำลังจะเสร็จอีก 2 ฉบับ คือ กฎหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) รวมถึงมีโรดแมปชัดเจน แต่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่มีอะไรแน่นอน เช่น กฎหมายพรรคการเมืองที่ประกาศใช้ไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคม 2560 คสช.ยังใช้มาตรา 44 แก้ไขได้ ล่าสุดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีอธิบายคำสั่งคสช.ที่ 53/60 โดยระบุว่าการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน เว้นแต่จะมีตัวแปรอย่างอื่น


“หากการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงก็จะอยู่ภายใต้บริบทประชาธิปไตยครึ่งใบ  อยู่ภายใต้การกำกับของคสช. ที่มีมาตรา 44 เป็นเครื่องมือสำคัญ เป็นการแข่งขันทางการเมืองที่มีอยู่เดิมกับพรรคที่จะเกิดขึ้นใหม่ ในส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ยืนยันว่าจะไม่ตั้งพรรคการเมือง ซึ่งตนเชื่อว่าพูดจากใจเพราะพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องตั้งพรรคเองก็มีคนตั้งพรรคสนับสนุนให้ ซึ่งหลังจากนี้จะอีก 1 ปีหรือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ก่อนจะมีการเลือกตั้ง รัฐบาลชุดนี้จะต้องไม่โกง เร่งปฏิรูปประเทศให้เป็นรูปธรรม สร้างผลงานให้ชัดเจน และเร่งแก้ปัญหาปากท้องประชาชน”  นายจุรินทร์ กล่าว 

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ตั้งข้อสังเกตคำสั่งคสช.ดังกล่าว ว่า  เปรียบเหมือนการรีเซ็ตพรรคการเมืองในทางอ้อมหรือไม่ เพราะภาพรวมประเทศไทยขณะนี้ ยังขาดความเชื่อมั่นในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎหมาย เช่น การออก พ.ร.บ.พรรคการเมืองมาแล้วก่อนหน้านั้น แต่คสช.กลับออกคำสั่งที่ 53/2560 ออกมาอีก แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมั่นใจในคำสั่งนี้ว่าจะมีอำนาจเหนือกว่ารัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักนิติธรรมรวมถึงกรณีสหภาพยุโรป(อียู) มีหนังสือมายังทางการไทยเรื่องการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่แสดงออกทางการเมือง ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งปลดล็อคให้พรรคการเมืองต่างๆ สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้

“3 ปี ที่ผ่านมา ประเทศไทยรั้งท้ายในเรื่องของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชน ซึ่งรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขได้ การเลือกตั้งครั้งหน้า ตามที่รัฐบาลประกาศไว้ว่าจะเดินหน้าเลือกตั้งตามโรดแมป ผมมองว่าจะเป็นการเลือกตั้งครั้งที่แปลกที่สุด เพราะมีมาตรา 44 คอยกำกับอยู่ ทางออกที่ดีที่สุดคือรัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ด้วยการใช้กฎหมายปกติที่ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามโรดแมป เพราะการเลือกตั้งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดของระบอบการเมือง รัฐบาลจำเป็นต้องบริหารประเทศด้วยความเป็นกลาง มีจริยธรรม และควรทำให้ประเทศเป็นที่ยอมรับ” อดีตส.ส เพื่อไทย กล่าว 


สมชัย ศรีสุทธิยากร กล่าวว่า การเลือกตั้งตามโรดแมปที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2561 เกิดขึ้นได้ยาก เพราะทุกอย่างต้องนิ่งและต้องเสร็จก่อนอย่างน้อย 3 เดือน เมื่ออ่านคำสั่งที่ 53/60 อย่างละเอียดเห็นว่าที่น่าสนใจคือ ข้อ 8 ที่ระบุว่าเมื่อกฎหมายเลือกตั้งสส. สว.แล้วเสร็จ และประกาศใช้อย่างทางการ ให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) แจ้งคสช. ยกเลิกคำสั่งต่าง ๆ ที่ขัดขวางการทำกิจกรรมของพรรคการเมือง ซึ่งตอนนั้นฝ่ายพรรคการเมืองจะเป็นฝ่ายบอกเองว่าเลือกตั้งไม่ทัน ขอเลื่อนการเลือกตั้งเอง

“ขอแนะนำพรรคการเมืองว่าต้องบอกว่าทัน แต่เมื่อมีการประชุมใหญ่พรรคการเมือง พรรคเล็กที่มีจำนวนมากกว่าจะลงมติว่าไม่ทัน ขอเลื่อน ซึ่งหากเป็นแบบนี้รัฐบาล คสช.ไม่เสียหาย ส่วนที่บางพรรคการเมืองมองว่าคำสั่ง 53/60 เป็นการรีเซ็ตพรรคการเมืองแล้วออกมาโวยวายก็ไม่ได้เดือดร้อนจริง ๆ ซึ่งอาจเข้าทางพรรคใหญ่ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม มีการเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าพรรคที่มีสมาชิกมากจะชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นขอแนะนำว่าพรรคไม่ต้องมีสมาชิกมาก เพราะจะบริหารจัดการได้ง่ายกว่า” นายสมชัย กล่าว

ขณะที่นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล  กล่าวว่า คำสั่งคสช.ที่ 53/60 คือการเซ็ตซีโร่ส.ส.เก่าหรือล้างไพ่ ให้ส.ส. สามารถเลือกพรรคใหม่หรือย้ายพรรคได้ โดยไม่ต้องลาออกจากพรรคเดิม สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ทันที ซึ่งผลในทางกฎหมายคำสั่งดังกล่าวทำให้ไม่ต้องยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคใด และหากเจตนาของคสช.คือต้องการล้างไพ่ ในส่วนของ ส.ส.ก็สามารถอยู่ได้ หากไม่ตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา และการเลือกตั้งครั้งนี้คสช.อาจเตรียมการเข้าสู่สนามการเลือกตั้งไว้แล้ว 

“ถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเกิดขึ้นภายใน 150 วัน หลังจากที่กฎหมายเลือกตั้งสส. สว.แล้วเสร็จและประกาศใช้ทางการ ในช่วงนี้จะย้ายพรรคให้เห็น ผมมองว่าคำสั่งคสช.ที่ 53 /60 ไม่ได้เป็นการปลดล็อคทางการเมือง เพราะหากจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ยังต้องขออนุญาตคสช. ในส่วนคำสั่งล่าสุด อนุญาตให้สามารถทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการยืนยันสมาชิกภาพพรรคการเมืองหรือทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.ป.พรรคการเมืองเท่านั้น แต่เรื่องอื่น ๆ ยังไม่อนุญาต” นายปริญญา กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]