สมชัย จี้สนช.สรรหา กกต.ให้รอบคอบ

กรุงเทพฯ 22 ธ.ค.- “สมชัย” เรียกร้อง สนช.พิจารณาเรื่องการสรรหา กกต อย่างรอบคอบ และพร้อมรับผิดชอบผลที่เกิดขึ้น  หลังรีบบรรจุวาระเลือก กกต.ทั้งที่การลงคะแนนสายศาลอาจไม่ถูกกฎหมาย 


นายสมชัย  ศรีสุทธิยากร  กกต.  กล่าวว่าถึงการพิจารณารายชื่อ กกต.ชุดใหม่ของ  สนช.ในวันนี้  ว่า เพิ่งเห็นวาระการประชุมที่ถูกบรรจุวาระอย่างเร่งด่วนว่า ในวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2560 มีวาระด่วน เรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต. ที่เลื่อนมาจาก การประชุมเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม   โดยแจ้งว่า ได้รับคำตอบจากศาลฎีกายืนยันแล้วว่า การลงคะแนนเป็นไปโดยเปิดเผย

นายสมชัย กล่าวว่า เมื่อดูในรายละเอียดเอกสารการประชุม ยังเป็นเอกสารเดิม 389 หน้า ที่ใช้ในการประชุมเมื่อวันที่ 14  ธ.ค.ไม่มีเรื่องแนบใหม่เกี่ยวกับคำตอบของศาลฎีกาแต่ประการใด  อาจมีการแจกเพิ่มเติมในที่ประชุม   ซึ่งเมื่อดูจากเอกสารเดิมแล้วจะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน  ระหว่างเอกสารของกรรมการสรรหามีความยาว 350 หน้า ที่เล่ารายละเอียดของการดำเนินการ กับเอกสารของศาลฎีกา  ที่มีเพียงแค่จดหมายปะหน้าแผ่นเดียว และตามด้วยใบสมัครของผู้พิพากษาสองท่าน  รวมแล้ว 30 หน้า


“ไม่มีรายละเอียดของการประชุม จำนวนผู้สมัคร ชื่อผู้สมัครทั้งหมด  หรือแม้กระทั่งคะแนนที่ได้รับของแต่ละท่าน  เพียงแค่ระบุชื่อว่า ขอเสนอชื่อสองคน คือใครบ้าง ไม่มีสิ่งใดที่เป็นสิ่งยืนยันว่า เป็นการลงคะแนนแบบเปิดเผย ตามที่กำหนดไว้ ใน พรป.กกต.มาตรา 12 วรรคสาม”นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย  กล่าวว่า การอธิบายผ่านสื่อจากศาลฎีกา  คือ เป็นการลงคะแนนในบัตรที่ไม่มีหมายเลขกำกับ   จึงไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าใครลงให้ใคร  และนำไปใส่หีบที่ตั้งอยู่กลางห้อง ถือเป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผยชอบด้วยกฎหมายแล้ว    ซึ่ง สนช.ต้องพิจารณาว่าเป็นเหตุผลที่รับได้หรือไม่  ไม่ใช่แค่ผู้ตอบเป็นศาลฎีกาเมื่อยืนยันแล้วว่า เปิดเผย คือเปิดเผยแล้วดำเนินการต่อ

“ความรับผิดชอบของ สนช. คือ การดำเนินการทุกเรื่องให้ถูกต้องเสร็จสิ้นปราศจากความเคลือบแคลงสงสัย  หาก สนช.ยังเดินหน้าต่อ  ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีการกระทำที่มิชอบเกิดขึ้น และไม่มีการตรวจสอบให้ปราศจากข้อสงสัย  เกรงว่า สนช.ทั้งสภา อาจต้องรับผิดชอบในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐ กระทำการโดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อราชการ “  นายสมชัยระบุ และเชื่อว่า เรื่องดังกล่าวจะนำไปสู่การฟ้องร้องตามมา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง