“ห้ามขาด ห้ามลา ช่วงปีใหม่” ธพ.ย้ำปั๊มน้ำมัน

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – กรมธุรกิจพลังงานทำหนังสือถึงผู้ค้าน้ำมันและผู้ขนส่งน้ำมัน เน้นย้ำการบริการช่วงปีใหม่ ปลอดภัย-เพียงพอ เน้น “ห้ามขาด ห้ามลา” ท่องเที่ยวโต-อากาศหนาว มั่นใจยอดใช้น้ำมันไตรมาส 4/60 โตร้อยละ 10 


นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (19 ธ.ค.) ธพ.ได้ทำหนังสือถึงผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงและผู้ขนส่งน้ำมัน  เรื่องการให้บริการประชาชนที่เดินทางเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นวันหยุดยาว 30 ธันวาคม 2560 – 2 มกราคม 2561 โดยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยและการจัดเตรียมน้ำมันให้เพียงพอไม่ขาดแคลน เพื่อรองรับทั้งการเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยว พร้อมให้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของช่วงเฝ้าระวัง 7 วันอันตราย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

ทั้งนี้ ในส่วนการขอความร่วมมือกับผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิง ขอให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดใน 5 เรื่อง ได้แก่ 1. จัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เพียงพอในช่วงเทศกาลปีใหม่  2.อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มาใช้บริการในสถานีบริการ จัดการจราจรที่สะดวกและปลอดภัยมีที่จอดรถให้เพียงพอ และจัดห้องน้ำให้สะอาด3.ไม่ให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 4.เฝ้าระวัง สอดส่องการก่อเหตุร้ายในสถานีบริการ จัดให้มีแสงสว่างให้เพียงพอ ดูแลตรวจตราสถานีบริการให้ปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ 5. เตรียมความพร้อมของทีมระงับอุบัติเหตุด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้สามารถตอบโต้กับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที


ส่วนผู้ขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้ขอให้ดำเนินการ 2 เรื่อง ได้แก่ 1.กำชับให้พนักงานขับรถเดินรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และพักผ่อนให้เพียงพอ 2. เตรียมความพร้อมของทีมระงับอุบัติภัยให้สามารถตอบโต้กับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที 

นายวิฑูรย์ กล่าวด้วยว่า จากอากาศที่หนาวเย็นปีนี้ ประกอบกับช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงรื่นเริง การเดินทางปีนี้จึงมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว ทางกรมฯ ประเมินว่าไตรมาส 4/60 ยอดใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ซึ่งล่าสุดยอดใช้ดีเซลอยู่ที่ประมาณ 63-64 ล้านลิตร/วัน 

“ช่วงนี้อากาศหนาวเย็น ผมจะจองตั๋วไปเชียงใหม่ ก็พบว่าเต็ม แสดงว่าคนท่องเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับ การรายงานของผู้ค้าน้ำมันที่เตรียมการจำหน่ายน้ำมันในช่วงไตรมาส 4 ที่เพิ่มขึ้น จึงมั่นใจว่ายอดขายโดยรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ซึ่งถือว่าเป็นยอดที่สูงมาก โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ จึงได้ย้ำให้ผู้ค้าน้ำมันเตรียมคน เตรียมน้ำมันให้เพียงพอ ห้ามขาด ห้ามลา ” นายวิฑูรย์ กล่าว    


สำหรับการใช้น้ำมันขณะนี้เพิ่มขึ้น โดยเดือนตุลาคม 2560 กลุ่มเบนซินรวมอยู่ที่  29.45 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 ดีเซลมียอดใช้ 58  ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ก๊าซหุงต้ม  มียอดใช้ 5,420 ตันต่อเดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1 ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) ยอดใช้ 6.31 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ลดลงร้อยละ 13.6. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย