ประชาชนยังหลั่งไหลเข้าชมความงามพระเมรุมาศช่วงวันหยุดยาว

สนามหลวง  11 ธ.ค. – ประชาชนยังหลั่งไหลเข้าชมความงดงามของพระเมรุมาศต่อเนื่องในช่วงวันหยุดยาว เฉลี่ยวันละ  5-6 หมื่นคน ยอดรวมตั้งแต่ 2 พ.ย.-10 ธ.ค.60 มีประชาชนเข้าชมแล้วกว่า 2.93 ล้านคน


ในช่วงวันสุดท้าย ของช่วงหยุดยาวต่อเนื่อง ก็ยังคงมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศทยอยเดินทางผ่านจุดคัดกรองรอบพื้นที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทั้ง 5 จุด ได้แก่ บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์, หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน(รด.) ,ท่าช้าง , ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์  และด้านหลังกระทรวงกลาโหม เพื่อรอเข้าคิวชมนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กันอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่จะยังคงเปิดให้เข้าชมรอบละ 1 ชั่วโมงเช่นเดิม โดย 15 นาทีแรกเป็นชมด้านหน้าองค์พระเมรุมาศ เพื่อให้ประชาชนถ่ายภาพเก็บเป็นที่ระลึก ก่อนเปิดให้ เข้าชมยังศาลาลูกขุนต่างๆทั้ง 6 หลัง ด้านในนิทรรศการอย่างอิสระ  โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน และ จิตอาสาคอยอำนวยความสะดวก แนะนำและดูแล เกือบ 4,000 นายต่อวัน 


เจ้าหน้าที่ประจำงาน เปิดเผยว่า  หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ทราบข่าวการขยายเวลาเข้าชมพรเมรุมาศและนิทรรศการได้จนถึง 31 ธันวาคมนี้ จึงทำให้การเข้าชมพระเมรุมาศช่วงนี้ไม่หนาเเน่นมากนัก โดยช่วงวันธรรมดามีประชาชนเข้าชมเฉลี่ยที่ประมาณ  20,000 คนต่อวัน ส่วนวันหยุดราชการจะเริ่มหนาแน่นเฉลี่ยอยู่ที่ 50,000 – 60,000 คนต่อวัน ขณะที่ยอดเมื่อวานที่ผ่านมา (10 ธ.ค.)มีประชาชนเข้าชมทั้งหมด 65,726 คน แบ่งเป็นประชาชน 63,102 คน นักท่องเที่ยว 1,133 คน นักเรียนนักศึกษา 594 คน  ประชาชนนั่งวีลแชร์ 633 คน พระภิกษุสามเณร 228 รูป และผู้พิการ 13 คน ตั้งแต่เปิดให้เข้าชมวันแรก 2 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2560 มียอดประชาชนเข้าชมแล้วทั้งสิ้น 2,938,328 คน


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์เข้าชมพระเมรุมาศ ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ห้ามถ่ายเซลฟี่เด็ดขาด หากไม่มีคนถ่ายให้สามารถเรียกเจ้าหน้าที่ตามจุดต่างๆ ได้ และห้ามจับประติมากรรม สถาปัตยกรรม รวมถึงสิ่งของที่จัดแสดง เพื่อจะได้คงความงดงามของศิลปะเช่นเดิม ให้ประชาชนคนอื่นได้ชมกันอย่างทั่วถึง  ทั้งนี้เวลาเปิดให้เข้าชมจะเริ่ม ตั้งแต่ 07.00-22.00 น. และเริ่มเปิดให้ผ่านจุดคัดกรองได้ตั้งแต่ 05.00-21.30 น. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง