สธ.ตั้งเป้าบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดปลอดวัณโรค

สธ.28 พ.ย.-สธ.เร่งค้นหาและจัดการปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ป่วยเป็นวัณโรค ตั้งเป้าหมายปี 61 “ลดโรค ลดเสี่ยง” โดยลดอัตราป่วยไม่เกินร้อยละ 5 และลดอัตราป่วยรายใหม่ไม่เกินร้อยละ 1 ใน รพ.ศูนย์และทั่วไป


นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมความร่วมมือในการดูแลสุขภาพบุคลากรทางการแพทย์ ครั้งที่10 ที่จ.ขอนแก่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจาก 33 ประเทศ ว่า นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ได้ประกาศยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุข (Patient and Personnel Safety: 2P Safety) เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย ได้รับบริการสุขภาพที่ดี และบุคลากรสาธารณสุขปลอดโรค ซึ่งจากการสำรวจของสำนักบริหารการสาธารณสุขในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปในเดือน ก.ค.2560 พบว่า มีบุคลากรป่วยเป็นวัณโรคจำนวน 235 ราย บาง รพ.มีบุคลากรป่วยเป็นวัณโรครายใหม่สูงถึง 21 ราย รวมทั้งที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโลกที่มอสโคว์ เดือนพ.ย.ที่ผ่านมาได้มีมติลดการติดวัณโรคในบุคลากรทางการแพทย์ ดังนั้นในปี 2561 กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้ง เป้าหมายให้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป “ลดโรค” หรือลดอัตราป่วยด้วยวัณโรคในบุคลากรสถานบริการให้ไม่เกินร้อยละ 5 และ “ลดเสี่ยง” หรือลดอัตราป่วยวัณโรครายใหม่ไม่เกินร้อยละ 1 


นพ.เจษฎากล่าวต่อว่า เมื่อบุคลากรป่วยเป็นวัณโรค จะมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน ทั้งความกังวลจะแพร่เชื้อให้ผู้ป่วยและเพื่อนร่วมงาน รู้สึกอับอายที่จะเปิดเผยว่าตนเองติดเชื้อวัณโรค บางรายที่มีอาการป่วยรุนแรง มีอาการแพ้ยา หรือเกิดผลข้างเคียงจากการกินยา ทำให้ต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัว จึงมีความจำเป็นเร่งด่วน ที่จะค้นหาบุคลากรในสถานบริการที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อหรือป่วยแล้ว เพื่อให้การดูแลอย่างเหมาะสม


สำหรับระบบการดูแลบุคลากรสถานบริการ มี 4 มาตรการ คือ1.การขับเคลื่อนนโยบายลดการติดเชื้อวัณโรคในกลุ่มบุคลากรสถานบริการทุกระดับ 2.Smart Detect การประเมินความเสี่ยงและคัดกรองบุคลากรกลุ่มเสี่ยง 3.Smart Response การลดความเสี่ยงเพื่อลดการติดเชื้อวัณโรคจากการทำงานของบุคลากร เช่น การจัดระบบระบายอากาศที่เหมาะสม การกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย การใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล การให้การรักษาที่รวดเร็วและเหมาะสม เป็นต้น และ 4.การสอบสวนและเฝ้าระวังวัณโรคในกลุ่มเสี่ยง เช่น พยาบาลแผนกอายุรกรรม พยาบาลแผนกผู้ป่วยนอก เป็นต้น 

นอกจากนี้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการยุติปัญหาวัณโรค กระทรวงมีนโยบายในการค้นหาผู้ป่วยวัณโรค เน้นในกลุ่มเสี่ยง 6 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ต้องขังในเรือนจำ ผู้สัมผัสผู้ป่วยวัณโรค ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน และบุคลากรสาธารณสุขให้ครอบคลุมร้อยละ 90 เพื่อลดอัตราป่วยให้เหลือไม่เกิน 88 ต่อประชากร 100,000 คน ภายในปี 2564.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร