ดินแดง 21 พ.ย.-ก.แรงงาน เตือนแรงงานไทยที่จะไปทำงานต่างประเทศ ระวังถูกหลอกซ้ำรอย หลังพบแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานร้านสปาในเลบานอน ไม่แจ้งกรมการจัดหางาน ถูกนายจ้างบังคับให้ทำอนาจารและค้าประเวณี พร้อมหักค่าวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ย้ำเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ ต้องผ่านพิจารณาและได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานก่อน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงาน ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้รับเรื่องร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากแรงงานหญิงไทยที่ไปทำงานร้านสปาที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เนื่องจากได้รับการชักชวนผ่านทางไลน์จากนายหน้าคนไทยที่อยู่ในเลบานอนให้ไปทำงานที่ร้านสปา และจะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใบอนุญาตทำงานและค่าวีซ่า โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 400 ดอลล่าห์สหรัฐต่อเดือน ไม่รวมทิป แต่ต้องเสียค่านายหน้าคนละ 30,000 บาท
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ต้องผ่านกรมการจัดหางาน ซึ่งเมื่อแรงงานหญิงไทยเดินทางถึงเลบานอนกลับถูกบังคับให้นวดและค้าประเวณีหรือทำอนาจาร นอกจากนี้บางรายถูกนายจ้างหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือ ค่าวีซ่า และใบอนุญาตทำงานอีกด้วย
นายอนุรักษ์ กล่าวอีกว่า แรงงานไทยดังกล่าวเดินทางไปทำงานโดยไม่ผ่านกรมการจัดหางานและไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหา งานไปทำงานในต่างประเทศ ถือเป็นการเดินทางไปทำงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการไปทำงานต่างประเทศที่ถูกต้องนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาอนุญาตจากกรมการจัดหางานเพื่อป้องกันไม่ให้คนหางานถูกหลอกลวงหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างและขอย้ำว่าผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถจัดส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ .-สำนักข่าวไทย