กรุงเทพฯ 14 พ.ย. – ปตท.เสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มความมั่นคงทางพลังงานและเศรษฐกิจชาติ โชว์กำไร 9 เดือนเกือบแสนล้านบาท
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ปตท.มีรายได้จากการขาย 1,142,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102,748 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยครั้งนี้กำไรจากผลการดำเนินงานของ ปตท. 54,982 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,915 ล้านบาท หรือร้อยละ 37 จากช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีจำนวน 40,067 ล้านบาท สาเหตุหลักจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติของโรงแยกก๊าซฯ ที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้น จากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและปริมาณขายเพิ่มขึ้นจากที่โรงแยกก๊าซฯ มีซ่อมบำรุงใหญ่ในช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ ปตท.มีรายได้อื่นจากเงินปันผลและกำไรจากการขายเงินลงทุนในกองทุนรวม จำนวน 5,260 ล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 5,050 ล้านบาท จากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับงวดก่อน
ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในกลุ่ม ปตท. อาทิ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (PTTEP) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) และ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (GPSC) ในครั้งนี้ มีจำนวน 44,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,379 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.5 จากปีที่แล้ว ที่มีจำนวน 35,455 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานโดยรวมดีขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยเฉพาะจากกลุ่มโรงกลั่นที่ดีขึ้นตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีการด้อยค่าทรัพย์สินของ ปตท.สผ. ก็ตาม ทำให้ 9 เดือนที่ผ่านมา ปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 99,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24,294 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.2 จาก 75,522 ล้านบาท เป็นผลมาจากกำไรของผลการดำเนินงาน ปตท. 54,982 ล้านบาท และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในกลุ่ม ปตท. 44,834 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานที่ดีส่งผลให้ ปตท.มีศักยภาพในการแข่งขันและสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศระยะยาว ควบคู่กับการยกระดับกิจการเพื่อสังคม ธุรกิจเพื่อสังคม รวมทั้งสามารถตอบสนองนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยสนับสนุนการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) และร่วมพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเล่ย์ จ.ระยอง ให้เป็นเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซีไอ) เพื่อส่งเสริมงานวิจัยและนวัตกรรมรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ ยกระดับขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
นอกจากนี้ ปตท.จะขยายการลงทุนและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ช่วงที่ผ่านมาเรายังขับเคลื่อนกิจการเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าและผลผลิตทางการเกษตร ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. การทยอยปรับราคาก๊าซ NGV เพื่อให้กระทบผู้บริโภคน้อยที่สุด บนหลักการทำงานที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ล่าสุดจากโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการ บริษัทจดทะเบียน ปี 2560 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปตท.ได้รับการจัดอันดับอยู่ในระดับดีเลิศ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการประเมินติดต่อกันเป็นปีที่ 9 และติดหนึ่งใน Top Quartile ของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่ง ปตท.มีความมุ่งมั่นพัฒนามาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย