ดานัง 10 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี หวัง สภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค (เอแบค) เชื่อมโยงธุรกิจขนาดใหญ่ กับ ไมโคร เอสเอ็มอี ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อให้มีศักยภาพแข่งขันในระดับสากล
“พัทธนันท์ สงชัย” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 25 ณ นครดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2560 รายงานว่า นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้นำจากชิลี ปาปัวนิวกินี และรัสเซีย ได้เข้าหารือกลุ่มย่อยกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค หรือ เอแบค ( ABAC) จากเขตเศรษฐกิจต่าง ๆ ประกอบด้วย บรูไนดารุสซาลาม แคนาดา จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ ภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน ครอบคลุมและมีนวัตกรรม และการส่งเสริมความเป็นสากลของวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs)”
โดยนายกรัฐมนตรี หารือกับ ABAC ในเรื่องมาตรการกระตุ้นการมีส่วนร่วมของ ไมโคร เอสเอ็มอี หรือ MSMEs ในตลาดสากล และความร่วมมือจากภาคธุรกิจในด้านดังกล่าว พร้อมย้ำว่า MSMEs เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในไทยมีผู้ประกอบการ MSMEs มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 99.7 ของจำนวนกิจการทั้งหมด ซึ่งก่อให้เกิดการจ้างงานถึงร้อยละ 80 ของการจ้างงานทั้งหมด รวมถึงสร้างมูลค่าให้กับ GDP ถึงร้อยละ 40 ของ GDP ประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีจำนวนมาก แต่เกือบทั้งหมดเป็นวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม ซึ่งยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการประกอบธุรกิจ ดังนั้น รัฐบาลไทยจึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อการส่งเสริมการเติบโต MSMEs ให้มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับสากล และสามารถใช้ประโยชน์จากการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงปรับตัวให้เท่าทันยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในยุคดิจิทัล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไทยได้จัดตั้งกองทุนพัฒนา SMEs ตามแนวประชารัฐ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม ในวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้ SMEs พัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงตามยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศไทยที่สอดคล้องกับนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยมีอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ภาคการเกษตร อุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร และการท่องเที่ยว เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐบาลไทยได้อนุมัติ สินเชื่อ SME Transformation Loan ที่เน้นสนับสนุน SMEs ที่ส่งออกหรือขยายธุรกิจในต่างประเทศ และ ได้จัดตั้งโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อ Micro SMEs สนับสนุนวิสาหกิจรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้วิสาหกิจเหล่านี้ปรับปรุงกิจการและนำเงินมาหมุนเวียนเพื่อสร้างศักยภาพในการเติบโตต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ยังได้จัดหลักสูตรการอบรมในลักษณะ SME Academy เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความเป็นสากลของ MSMEs โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะ การสร้างองค์ความรู้ด้านการตลาด การพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการให้เทียบเท่าคุณภาพสากล และการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงการจัดทำบัญชีอย่างถูกต้องเพื่อพัฒนาธุรกิจที่มั่นคง
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า ไทยมีโครงการสร้างความแข็งแกร่งให้ MSMEs ด้านการเกษตร โดยมีเป้าหมายบ่มเพาะผู้ประกอบการ MSMEs และผู้ประกอบการรายใหม่ให้เป็น Smart Farmer กว่า 5000 ราย พร้อมจัดตั้ง “กลไกประชารัฐ”เพื่อให้ภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐ ในการสนับสนุนทั้ง MSMEs ผู้ประกอบการรายใหม่ และกิจการเพื่อสังคม เข้าสู่ตลาดสากลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยหวังว่า ในอนาคต ABAC จะมีเข้ามามีบทบาทในการสร้างเครือข่ายที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมธุรกิจขนาดใหญ่กับ MSMEs ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเป็นพี่เลี้ยงให้กับ MSMEs .-สำนักข่าวไทย