กรุงเทพฯ 9 พ.ย.- กรมศุลกากรยึดงาช้างเกือบ 40 ท่อน น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท พบสินค้าสำแดงเท็จเป็นกระเพาะปลาส่งจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก คาดเชื่อมโยงกับการจับกุมเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพราะมีต้นทางจากที่เดียวกัน
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร และพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. แถลงผลตรวจยึดงาช้าง 4 กิ่ง 39 ท่อน น้ำหนักรวม 116 กิโลกรัม และมีเกล็ดลิ่นอีก 15 กิโลกรัม เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้จากการตรวจค้นกล่องพัสดุสินค้าในคลังสินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมระบุว่า กล่องพัสดุถูกส่งมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยสำแดงเอกสารสินค้านำเข้าเป็น กระเพาะปลาแต่เพราะต้นทางเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มักลักลอบค้าสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่จึงอายัดกล่องพัสดุไว้ตรวจสอบ ซึ่งพบภายในกล่อง มีงาช้างและเกล็ดลิ่น จำนวนมาก คิดเป็น มูลค่ากว่า 11 ล้านบาท ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 เจ้าหน้าที่จึงยึดทั้งหมดไว้และจะส่งให้กรมอุทยานแห่งยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ดูแลตามกฎหมาย
ส่วนการติดตามตัวผู้ร่วมกระทำผิด ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีเบื้องต้นพบความเชื่อมโยงกับคดีลักลอบนำเข้างาช้างเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2560 เพราะมีต้นทางจากคองโกเช่นกัน
นอกจากนี้กรมศุลกากรเปิดเผย สถิติการตรวจยึดสินค้านำเข้าและส่งออกที่ละเมิดอนุสัญญาไซเตส จำพวกสัตว์ป่า พืชป่า ใกล้สูญพันธุ์ ที่รวบรวมไว้ตั้งแต่ตุลาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน มี 46 มูลค่าของกลางประมาณ 350 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย