“หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม” ร้อง DSI เอาผิดขบวนการนำเข้ารถหรู ทำถูกอายัดลัมโบร์กินี

กรุงเทพฯ 12 ก.ค. “หมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม” ร้องต่อดีเอสไอ เอาผิดขบวนการนำเข้ารถหรู หลังซื้อรถลัมโบร์กินี ใช้มานาน 3 ปี เพิ่งรู้ว่ารถสำแดงเอกสารนำเข้าเท็จ จนถูกสั่งอายัดจากดีเอสไอ


ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนายศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือหมอกฤษณ์ คอนเฟิร์ม หมอดูชื่อดัง เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการเข้ารถหรูลัมโบร์กินี ที่ดีเอสไอได้มีคำสั่งอายัดรถหรูของนายศุกฤษฎ์ ราคา 27 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในรถหรู 200 คัน ที่ถูกตรวจสอบกรณีสำแดงภาษีเท็จ


นายศุกฤษฎ์ กล่าวว่า รู้สึกเหมือนถูกหลอกจากโชว์รูมผู้นำเข้า เพราะจากการโดนอายัด ทำให้ปัจจุบันไม่สามารถจำหน่ายถ่ายโอนทรัพย์สินได้ โดยตนได้ซื้อรถลัมโบร์กินี รุ่นอะเวนทาดอร์ จากโชว์รูมที่ใหญ่ที่นำเข้า เมื่อปี 59 และเมื่อเดือนเมษายนปี 62 ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งจากดีเอสไอ อายัดรถที่ต้องถูกตรวจสอบ เช่นเดียวกับผู้ที่ซื้อรถลัมโบร์กินีอีกหลายสิบคน ที่โดนกรณีนี้เช่นเดียวกัน โดยรถที่ถูกตรวจสอบแต่ละคันราคา 20-30 ล้านบาท ตนในฐานะผู้บริโภคมาขอความเป็นธรรม เพราะตอนที่ซื้อนั้นมีเอกสารที่โชว์รูมนำมาแสดงบอกว่าถูกต้องและมีการจดทะเบียนที่กรมขนส่งเลขเครื่อง ตัวถังตรงกัน เป็นการจดทะเบียนนำเข้าแบบ 32 คือการนำเข้าทั้งคัน ซึ่งไม่ใช่รถจดประกอบ และตนก็ซื้อต่อมาเป็นมือที่ 3 แล้ว ซึ่งมีเอกสารมาแสดงก่อนซื้อว่าถูกต้อง 


จึงอยากถามว่า เมื่อมีการตรวจสอบจากดีเอสไอภายหลังว่ามีการสำแดงเอกสารเท็จ แล้วที่ผ่านมาทั้งส่วนราชการ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าปล่อยให้รถเข้ามาได้อย่างไร เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ และประชาชนในฐานะผู้บริโภคจะทราบได้อย่างไรว่ารถที่ซื้อจะมีการสำแดงเท็จ เพราะไม่มีขั้นตอนให้ผู้ซื้อตรวจสอบได้เลย

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ขอยังไม่พูดว่ารถหรูดังกล่าวซื้อที่โชว์รูมใด แต่ในไทยมีบริษัทที่นำเข้ารถหรูยี่ห้อนี้อย่างเป็นทางการอยู่ไม่กี่แห่ง ซึ่งดีเอสไอมีข้อมูลอยู่แล้ว เฉพาะรถลัมโบร์กินี ที่เพิ่งมาทราบว่ารถนำเข้าผิดกฎหมายเช่นเดียวกับกรณีหมอกฤษณ์ มีไม่ต่ำกว่าสิบคัน ที่เป็นยี่ห้อลัมโบกินี เช่นเดียวกันนี้ คาดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท โดยกรณีนี้ผู้ซื้อที่เป็นผู้บริโภค ไม่มีความผิด เป็นผู้เสียหาย ที่ถูกโชว์รูมหลอกขายรถให้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ