ดีเอสไอออกเอกสารชี้แจงคดีบริษัทสัญญาร่วมไทย-มาเลเซีย

ดีเอสไอ 18 พ.ย.-ดีเอสไอแจงคดีบริษัทสัญญาร่วมไทย-มาเลเซีย กรณีสำแดงเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงอากรศุลกากร มีความผิดนอกราชอาณาจักร ยันไม่ล่าช้า คดียังไม่หมดอายุความ


กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกแถลงการณ์ชี้แจงตามที่มีปรากฏข่าวพาดพิงการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษกรณีการดำเนินคดีอาญาบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) และบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD ผู้ได้รับสัญญาจากองค์กรร่วมไทย–มาเลเซีย ในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) กรณีสำแดงเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงอากรศุลกากร ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ส่งสำนวนคดีต่ออธิบดีอัยการคดีพิเศษไว้แล้ว ซึ่งอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องแล้วกว่า 1 ปี เหตุใดกรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่ดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาตามที่อัยการสูงสุดมีความเห็นส่งตัวให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้อง จะรอให้คดีขาดอายุความหรืออย่างไร นั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรมฯได้รับคดีกรณีกล่าวหาบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 51/2558 และคดีกล่าวหาบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD ไว้เป็นคดีพิเศษที 52/2558 ซึ่งทั้ง2 คดีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดในลักษณะส่วนหนึ่งเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้อัยการสูงสุดเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ โดยอัยการสูงสุดมอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ดำเนินการสอบสวนและมอบหมายให้พนักงานอัยการเข้าร่วมสอบสวนในคดีนี้ด้วย โดยเมื่อปี พ.ศ. 2561 หลังจากที่ทำการสอบสวนเสร็จสิ้น จึงได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีทั้งสองให้อัยการสูงสุดพิจารณา


ต่อมาอัยการสูงสุดได้มีสั่งฟ้องและให้นำตัวผู้ต้องหามาฟ้องภายในกำหนดอายุความ ซึ่งเมื่อกรมฯได้รับคำสั่งฟ้องของอัยการสูงสุดแล้วมิได้เพิกเฉยหรือประวิงการดำเนินการแต่อย่างใด โดยมีการดำเนินการประชุมร่วมระหว่างคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและคณะพนักงานอัยการร่วมสอบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหามาฟ้องดำเนินคดี โดยกรณีของบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซียและไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และบริษัทคาร์โก้มาร์เก็ตติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นิติบุคคล ที่จดทะเบียนในประเทศ ในฐานะตัวแทนออกของ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัว รวม 7 ราย ซึ่งบริษัทคาร์โก้มาร์เก็ตติ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวที่มีสัญชาติไทยนั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งตัวให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 ส่วนบริษัท Carigali pttepi Operating Company Sdn Bhd (CPOC) นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซีย และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัว ซึ่งมีสัญชาติมาเลเซียนั้น ทางกรมฯอยู่ระหว่างติดตามตัว โดยขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา กับสำนักงานอัยการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด
สำหรับคดีกล่าวหาบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD.อัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD. นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซียและไม่ได้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย และบริษัท บางกอกเฟรท ฟอร์เวิดเดอร์ จำกัด จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ ในฐานะตัวแทนออกของ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัว รวม 9 ราย ซึ่งบริษัท บางกอกเฟรท ฟอร์เวิดเดอร์ จำกัด นิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศ และผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวที่มีสัญชาติไทยนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งตัวให้พนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ส่วนบริษัท CARIGALI HESS OPERATING COMPANY SDN. BHD. นิติบุคคลที่จดทะเบียนที่ประเทศมาเลเซียและผู้ต้องหาอื่นๆ ในฐานะส่วนตัวซึ่งมีสัญชาติมาเลเซียนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างติดตามตัวโดยขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา กับสำนักงานอัยการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อนำตัวมาฟ้องโดยเร็วต่อไป


ทั้งนี้ อายุความดำเนินคดีของทั้ง 2 คดีปัจจุบัน ยังไม่ขาดอายุความ ซึ่งจะเริ่มขาดอายุความกรรมแรกในเดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลุยเอง นำทีมบุกจับบ่อนดอนเมืองในตำนาน

ดอนเมือง 28 ส.ค. – “ภูมิธรรม” นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” ทลายบ่อนเปิดซ้ำซากย่านดอนเมือง รวบ 200 นักพนัน เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ย้ำ “ขบวนการตาสับปะรดของประชาชนคือเบาะแสสำคัญ” ร่วมกันสร้างสังคมปลอดอบายมุข ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ ปิดล้อมทลายบ่อนดอนเมืองในตำนาน เป็นจุดที่โดนทั้งตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง บุกเข้าจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้กรมการปกครองนำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้า-ออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนันกว่า 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียง เป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่ม เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ ในพื้นที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า บ่นพนันดังกล่าวพบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5-10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300-400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย