อสมท สานต่อโครงการหนูน้อยหัวแข็งปีที่ 2

อสมท 7 พ.ย.- อสมท จับมือ 5 พันธมิตร สานต่อโครงการหนูน้อยหัวแข็งปีที่ 2 รณรงค์เข้มหวังลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ในเด็กและเยาวชน


บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)  ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐ เอกชนและองค์กรอิสระ ประกอบด้วยบริษัทเอพี ฮอนด้า จำกัด, มูลนิธิ save the children ,กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จับมือกันดำเนินโครงการหนูน้อยหัวแข็งปีที่ 2 ภายใต้ชื่อโครงการ “หนูน้อยหัวแข็งพลัส 7% ” 


โดยปีนี้ได้เพิ่มการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วนร่วมดำเนินการเข้มข้น รณรงค์ การขับขี่ปลอดภัย สร้างจิตสำนึกให้กับกลุ่มเยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อคและสร้างวินัยจราจรในการเดินทางโดยเฉพาะพื้นที่เขตเมืองหลวง ซึ่งโครงการในปีแรกได้เริ่มดำเนินโครงการไปแล้วในพื้นที่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร 12 แห่ง เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 คน เป็นอย่างดี


สำหรับโครงการหนูน้อยหัวแข็งปีที่ 2 นี้มีเป้าหมายเข้าถึงเด็กเด็กกว่า 20,000 คน ใน 27 โรงเรียนทั่วกรุงเทพมหานคร กิจกรรมหลักคือ การให้ความรู้และเน้นย้ำความสำคัญของการขับขี่ปลอดภัยให้กับคุณครูและนักเรียนโดยเฉพาะการตระหนักรู้ในความสำคัญของการใส่หมวกกันน็อคในการโดยสารรถมอเตอร์ไซต์ของเด็กไทยเพื่อลดอุบัติเหตุ เพราะปัจจุบันมีเด็กไทยเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์มากถึง 1,300,000 คน มีเพียงร้อยละ7 เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อก ทำให้เมื่อมีอุบัติเหตุ มีเด็กเสียชีวิตถึงปีละ 2,600 คน บาดเจ็บพิการอีกกว่า 70,000 คน รวมทั้งจะอบรมครูและตัวแทนนักเรียนแกนนำเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน และการให้ความรู้เรื่องกฎจราจร จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และกิจกรรมเยี่ยมโรงเรียนเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สนุกสนานกับการ ได้ฝึกปฏิบัติการขับขี่ปลอดภัยจากสนามจราจรจำลอง รวมทั้งติดตั้งมุมจราจร ณ ห้องสมุดในโรงเรียนที่ร่วมกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้ต่อเนื่อง หวังว่าจะได้สร้างความจดจำและคาดหวังให้เด็กๆในโครงการได้บอกต่อเรื่องราวเหล่านี้กับคนในครอบครัวและคนใกล้ตัวของพวกเขาด้วย 

โครงการมีระยะเวลาดำเนิน 4 เดือน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2560 ถึงกุมภาพันธ์ 2561.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต