เศรษฐกิจการคลัง ก.ย.ขยายตัวแบบกระจายตัวดันจีดีพีไตรมาส 3

ก.คลัง  30  ต.ค. – สศค.เผยเศรษฐกิจการคลังเดือน ก.ย.ขยายตัวแบบกระจายตัว ดันจีดีพีไตรมาส 3 การส่งออกสินค้าและบริการเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีและสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง


นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2560 ว่า เศรษฐกิจไทยเดือนกันยายนปี 2560 มีสัญญาณการขยายตัวแบบกระจายตัวมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้าทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชนที่มีการขยายตัวในอัตราเร่งมากขึ้น ด้านอุปทานยังขยายตัวได้ดีทั้งผลผลิตสินค้าเกษตรและจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ทั้งนี้ การฟื้นตัวที่กระจายตัวมากขึ้นช่วยให้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัวได้ดี โดยมีการส่งออกสินค้าและบริการเป็นเครื่องยนต์หลัก เสริมด้วยการใช้จ่ายภาครัฐที่ขยายตัวได้ดีจากไตรมาสก่อน ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีและช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่เดือนกันยายน 2560 ขยายตัวร้อยละ 2.0 ต่อปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 5.9 ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งเดือนกันยายน 2560 ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 และขยายตัวสูงถึงร้อยละ 14.9 ต่อปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวร้อยละ 11.2 ต่อปี สำหรับปริมาณนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคเดือนกันยายน 2560 ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 8.4 ต่อปี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เดือนกันยายน 2560 เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 มาอยู่ที่ระดับ 62.5 โดยมีปัจจัยมาจากการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวที่ยังขยายตัวได้ดี รวมถึงการลงทุนของภาครัฐที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 62.4


สำหรับการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณการฟื้นตัวในอัตาราเร่งมากขึ้น สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนเดือนกันยายน 2560 ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 11.4 ต่อปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 8.2 ต่อปี เช่นเดียวกับปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์เดือนกันยายน 2560 ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 26.6 ต่อปี จากยอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 23.8 ต่อปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 12.8 ต่อปี ขณะที่การลงทุนหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศเดือนกันยายน 2560 ขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 4.9 ต่อปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัวเช่นกันที่ร้อยละ 3.5 ต่อปี สำหรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 4.2 ต่อปี โดยมีสาเหตุสำคัญจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กสูงขึ้นร้อยละ 19.2 ต่อปี ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างขยายตัวร้อยละ 3.0 ต่อปี

ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวระดับสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน โดยการมูลค่าการส่งออกสินค้าเดือนกันยายน 2560 ขยายตัวร้อยละ 12.2 ต่อปี โดยหมวดสินค้าสำคัญขยายตัวได้ดี ได้แก่  อัญมณีและเครื่องประดับ ทองคำ อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง และเชื้อเพลิง เป็นต้น ขณะที่ประเทศคู่ค้าขยายตัวได้ดี เช่น อาเซียน-9 จีน CLMV ฮ่องกง ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา เป็นต้น สำหรับมูลค่าการนำเข้าขยายตัวร้อยละ 9.7 ต่อปี โดยกลุ่มสินค้าที่สนับสนุนการขยายตัวของการนำเข้า เช่น วัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สินค้าทุน ทองคำ และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น ส่งผลให้ดุลการค้าเดือนกันยายนเกินดุล 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 มูลค่าการส่งออกสินค้ามีมูลค่า 61.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่ด้านการผลิตได้รับปัจจัยสนับสนุนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรเดือนกันยายน 2560 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันโดยขยายตัวร้อยละ 7.0 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวได้ดีของหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก ยางพารา และมันสำปะหลัง รวมถึงหมวดปศุสัตว์ และ หมวดประมงที่ขยายตัวได้ดีเช่นกัน ส่งผลทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 11.9 ต่อปี สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทยเดือนกันยายน 2560 มีจำนวน 2.56 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 5.7 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวได้ดีจากจีน เกาหลี กัมพูชา และอินเดีย เป็นสำคัญ ทำให้ไตรมาส 3 ปี 2560 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 8.78 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 6.4 ต่อปี 


อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดีและเสถียรภาพภายนอกอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ โดยอัตราตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 0.9 ต่อปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ระดับร้อยละ 0.5 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานเดือนกันยายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย