กทม.20 ต.ค.-ศาลฎีกาให้ประกัน”เบญจา หลุยเจริญ” อดีต รมช.คลังกับพวกอีก 4 คดีช่วย”โอ๊ค-เอม”เลี่ยงภาษีหุ้นชินฯคนละเกือบ 8,000 ล้าน
หลังวานนี้(19 ต.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี ป.ป.ช.ยื่นฟ้องนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร, น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามมาตรา 157 ยืนตามศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยที่ 1-4 ตามมาตรา 157 และ 83 คนละ 3 ปี ส่วน น.ส.ปราณี จำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157 และ 86 มีโทษ 2 ใน 3 ให้จำคุก 2 ปี กรณีช่วยไม่ให้นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณ ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย จากการที่นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดตกหุ้นละ 49.25 บาท ถือได้ว่านายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา เป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 โดยต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท
จำเลยทั้ง 5 ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฎีกา แต่วานนี้(19 ต.ค.) ศาลยังไม่มีคำสั่งลงมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวทั้ง 5 คนเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลฎีกา มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราวนางเบญจา กับพวกโดยตีราคาหลักทรัพย์ คนละ 500,000 บาท พร้อมสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร และให้ทั้ง 5 คนมอบหนังสือเดินทางต่อศาลชั้นต้น และให้ศาลชั้นต้น แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ.-สำนักข่าวไทย