กทม.-19 ต.ค.- จำเลย 5 คนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำคุก กรณีช่วย”โอ๊ค -เอม”ลูก”ทักษิณ-คุณหญิงพจมาน” เลี่ยงภาษีหุ้นชินฯเมื่อปี 49 นอนคุก รอศาลสั่งให้ประกันหรือไม่ระหว่างฎีกาคดี
หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยื่นฟ้องนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร , น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย , นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยานายทักษิณ ชอนวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐาน ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยที่ 1-4 ตามมาตรา 157 และ 83 คนละ 3 ปี ส่วน น.ส.ปราณี จำเลยที่ 5 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มีโทษ 2 ใน 3 ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี กรณีช่วยไม่ให้นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณ ชินวัตร ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย จากการที่นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดตกหุ้นละ 49.25 บาท ถือได้ว่านายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา เป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 โดยต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท
จากนั้นจำเลยทั้ง 5 คน ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา แต่เนื่องจากศาลยังไม่มีคำสั่งลงมา เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมทั้ง 5 คน เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง โดยคาดว่าศาลน่าจะมีคำสั่งลงในวันพรุ่งนี้(19 ต.ค.)ว่าจะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่.-สำนักข่าวไทย