คมนาคมระบุตั๋วร่วมแมงมุม เริ่มใช้ระบบรถไฟฟ้า มิถุนายนปีหน้า

กรุงเทพฯ 18 ต.ค. – คมนาคม ยืนยันตั๋วร่วมแมงมุม เริ่มใช้ระบบรถไฟฟ้า มิถุนายนปีหน้า นำร่องรถเมล์-แอร์พอร์ตลิ้ง”เริ่มก่อน ส่วนรถไฟฟ้าmrt-bts–เรือ เริ่ม ตุลา61   


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานลงนามความร่วมมือเพื่อดำเนินการเชื่อมต่อระบบตั๋วร่วม ระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) ,บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(บีทีเอส)และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(บีอีเอ็ม) ว่า ระบบตั๋วร่วม(บัตรแมงมุม)ถือเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้ประชาชนโดยใช้บัตรใบเดียวสามารถเดินทางเชื่อมต่อการขนส่งสาธารณะในทุกระบบ โดยในเดือน มิ.ย.2561 ประชาชนจะสามารถใช้ตั๋วร่วมกับ รถไฟฟ้าแอร์พอร์เรลลิ้งก์ กับ รถเมล์ ขสมก.ขององค์การขนส่งทวลชนกรุงเทพหรือ ขสมก.ได้ก่อน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีม่วง และ รถไฟฟ้าบีทีเอส นั้นประชาชนจะสามารถใช้ตั๋วร่วมได้ประมาณเดือน ต.ค.61  ส่วนระบบขนส่งทางน้ำ คาดว่าจะสามารถเข้ามาใช้ระบบตั๋วร่วมได้ในเดือน ต.ค.2561 เช่นกัน

“มั่นใจว่าประชาชนจะสามารถใช้ตั๋วร่วมตามกำหนดระยะเวลา  ไม่มีเลื่อนจากช่วงเวลาที่กำหนดอีก โดยในช่วงที่ตั๋วร่วมยังไม่สามารถใช้งานได้ ประชาชนสามารถขึ้นรถไฟ รถเมล์ ขสมก.ฟรีอยู่ แต่พอถึงวันที่ 1พ.ย.เป็นต้นไป ประชาชนที่มีบัตรสวัสดิการคนจน ก็สามารถใช้บัตรสวัสดิการกับ รถเมล์ ขสมก.ได้ทันที  ส่วนตั๋วร่วมที่จะใช้กับรถไฟฟ้าทั้งสายสีน้ำเงินและ รถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้นจะสามารถใช้ได้พร้อมกันในเดือน ต.ค.ปี 61  อย่างไรก็ตามมั่นใจว่า หากเปิดระบบตั๋วร่วมให้ใช้ครบทุกระบบขนส่งสาธารณะ ในระยะยาวจะมีประชาชนเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากขึ้นแน่นอน เพราะผู้โดยสารเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หันมาใช้เดินทางโดยรถไฟฟ้ามากขึ้น และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ทั้งนี้จากการเจรจาระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนผู้เดินรถไฟฟ้าด้วยกัน ขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงการลด หรือ ยกเว้นค่าแรกเข้าเมื่อใช้บริการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าของผู้บริการรายอื่น แต่ในส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู ที่บีทีเอส เป็นให้บริการจะยังมีการยกเว้นค่าแรกเข้าอยู่”


นายฤทธิกา สุภารัตน์ รักษาการผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่าสำหรับความคืบหน้าการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อเข้ามา จัดการและบำรุงรักษาระบบตั๋วร่วม (CTC) ตลอดจนหน้าที่บริหารจัดการรายได้และกำหนดแนวทางดำเนินธุรกิจตั๋วร่วมนั้น ขณะนี้รฟม.อยู่ระหว่างการของบจากกระทรวงคมนาคมเพื่อนำไปจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาโครงสร้างองค์กรและสัดส่วนผู้ถือหุ้น คาดว่าจะดำเนินการร่างเอกสารประกวดราคา(ทีโออาร์) ภายในปีนี้เพื่อให้ได้ตัวเอกชนที่ปรึกษาโครงการภายในต้นปี 2561 ก่อนใช้ระยะเวลาศึกษาราว 4 เดือน ตลอดจนสรุปผลศึกษาฉบับสมบูรณ์รายงานสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ภายในมิ.ย. 61 หากได้รับการอนุมัติแล้วจะเร่งดำเนินการจัดตั้งบริษัทลูกใช้เวลาราว 8เดือน-12เดือน หรือจะก่อตั้งบริษัทแล้วเสร็จภายในปี 62

สำหรับเป้าหมายที่รมว.คมนาคมได้ให้เอาไว้ว่าจะต้องเร่งสรุปแนวทางรูปแบบธุรกิจของบริษัทลูกภายใน 3 เดือนนั้น ก็จะเร่งดำเนินการตามเป้าหมายเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะส่งเรื่องมายังกระทรวงคมนาคมตลอดจนนำข้อสรุปดังกล่าวไปรวมกับผลศึกษาของที่ปรึกษาโครงการเพื่อเสนอที่ประชุมสคร.ต่อไป

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)(บีทีเอส) กล่าวว่า ในส่วนของรถไฟฟ้านั้นทาง บีทีเอส และ บีอีเอ็ม ได้ลงทุนเพื่อดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วม กว่า 300 ล้านบาทในการพัฒนาระบบ มั่นใจว่าเมื่อเปิดให้บริการตั๋วร่วมอย่างเต็มรูปแบบจะเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้บริการได้อย่างมาก


ด้านนายเผด็จ ประดิษฐ์เพชร ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการติดตั้งตั๋วร่วมในระบบทางด่วนและมอเตอร์เวย์นั้น ล่าสุดกรมทางหลวง(ทล.)ได้รายงานว่าจะตั้งงบประมาณปี 2562 เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบอ่านบัตรตั๋วร่วมและซอฟแวร์สำหรับการเก็บค่าใช้จ่าย โดยจะเริ่มดำเนินการจ้างเอกชนเพื่อติดตั้งระบบในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. 2561 ก่อนใช้เวลาติดตั้งราว 3 เดือนเพื่อเปิดใช้ระบบตั๋วร่วมในมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วงกรุงเทพ-พัทยาก่อนเป็นเส้นทางแรกภายในต้นปี 2562 ก่อนจะดำเนินการติดตั้งและเปิดใช้งานต่อไปในมอเตอร์เวย์สาย 9 บางปะอิน-บางนาต่อไป อย่างไรก็ตามการติดตั้งระบบตั๋วร่วมของมอเตอร์เวย์นั้นจะนำเครื่องอ่านบัตรไปติดตั้งในช่องเก็บเงินธรรมดา (Cash) โดยไม่รวมกับระบบคิดเงินในช่องผ่านทางอัตโนมัติ (M-Pass) เนื่องจากเป็นคนละระบบกัน ส่งผลให้ทล.อาจต้องดำเนินการรื้อย้ายด่านเก็บเงินในบางแห่งเพื่อปรับช่องเข้าด่านเก็บเงินในระหว่างดำเนินการติดตั้งระบบตั๋วร่วม

สำหรับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.)นั้นคาดว่าจะเริ่มจ้างเอกชนเพื่อเข้ามาออกแบบและติดตั้งระบบตั๋วร่วมบนทางด่วนทุกสายได้ในช่วงปลายปีหน้าเช่นกัน หลังจากนั้นจะใช้เวลาการติดตั้งราว 4-5 เดือน เพื่อเปิดใช้งานได้ก่อนกลางปี 2562 โดยจะเป็นการติดตั้งระบบเครื่องอ่านบัตร (Reader) ในช่องเก็บเงินธรรมดา (Cash) โดยไม่รวมกับระบบคิดเงินในช่องผ่านทางอัตโนมัติ (Easy-Pass) อย่างไรก็ตามทางด้านการขนส่งทางน้ำอย่างเรือด่วนและเรือข้ามฟากนั้นเบื้องต้นมีเพียงเอกชนผู้ให้บริการเรือข้ามฟากเจ้าพระยาที่ได้ดำเนินการติดตั้งระบบอ่านบัตรไปบ้างแล้วในบางแห่งโดยเอกชนจะลงทุนติดตั้งประตูกั้นบริเวณท่าเรือใหม่ทั้งหมดโดยจะใช้ประตูกั้นใหม่คล้ายกับรถไฟฟ้าเพื่อให้รองรับกับระบบตั๋วร่วมและเครื่องอ่านบัตรที่จะติดตั้ง ขณะที่เรือด่วนคลองแสนแสบนั้นเอกชนผู้ให้บริการยังไม่ได้เข้ามาหารือจึงยังไม่มีความชัดเจนว่าจะได้เชื่อมต่อระบบตั๋วร่วมหรือไม่ – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้