เร่งหารือผลกระทบนำเข้าเนื้อสุกรสหรัฐ

นนทบุรี  9 ต.ค. –  กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงการเปิดนำเข้าเนื้อสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดงและมาตรการเยียวยา หลังมีกระแสข่าวว่าไทยถูกกดดันจากประเทศผู้ส่งออก พร้อมเร่งหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาแนวทาง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศและผู้บริโภค


นางอรมน  ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงกระแสข่าวไทยถูกกดดันจากประเทศผู้ส่งออก ประเด็นการเปิดนำเข้าเนื้อสุกรที่มีสารเร่งเนื้อแดง ว่า เนื่องจากคณะกรรมาธิการ CODEX ซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศภายใต้การทำงานร่วมกันขององค์การอาหารและเกษตรสหประชาชาติ (FAO) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งมีสมาชิก 187 ประเทศ รวมทั้งไทย ทำหน้าที่ด้านการกำหนดมาตรฐานอาหารที่ปลอดภัยต่อการบริโภคได้มีมติเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 กำหนดค่าปริมาณสารเร่งเนื้อแดงในสุกรตกค้างที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคในเนื้อสุกร 4 ชนิด คือ กล้ามเนื้อ ไขมัน ตับ และไต ทำให้ประเทศผู้ส่งออก เช่น สหรัฐและแคนาดาผลักดันให้ไทยเร่งยกเลิกการห้ามนำเข้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้าง และเปิดให้มีการนำเข้าระดับที่ไม่เกินมาตรฐาน CODEX กำหนด โดยขอให้ไทยเร่งปรับมาตรฐานให้สอดคล้องกับมติ CODEX ตั้งแต่ปี 2555 โดยเร็ว

นางอรมน  กล่าวว่า จากมติ CODEX ดังกล่าวส่งผลให้ไทยต้องมีการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ ในฐานะเป็นประเทศการค้าและเป็นสมาชิกของ CODEX และ WTO หากไม่ปฏิบัติตามอาจจะถูกประเทศคู่ค้าฟ้องร้อง ขณะเดียวกันเป็นโอกาสเร่งพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการผลิต ตลอดจน ยกระดับการผลิตของไทยให้มีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้ในสากล โดยปัจจุบันประเทศไทยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการนำเข้าหมูปลอดสาร หากจะนำเข้าต้องขออนุญาตดำเนินกระบวนการตรวจสอบด้านสุขอนามัยก่อน จึงจะสามารถนำเข้าได้


ส่วนการนำเข้าหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างจากสหรัฐ ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้นำเข้า เพราะจะต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ ต้องพิจารณาว่าจะมีแนวทางดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบทั้งต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศและผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

จับแล้วมือยิงอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ย่านบางลำพู

“ผู้การจ๋อ” ส่ง “สารวัตรแจ๊ะ” นำทัพสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ “จ่าเอ็ม” มือยิง “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้