สนง.กกต. 9 ต.ค.- “เรืองไกร” ร้อง กกต.สอบ 9 สนช. นั่งคณะกรรมการปฏิรูประเทศ เข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่งผลให้สมาชิกสภาพสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ชี้ นายกฯ และครม. ผู้แต่งตั้ง มีความผิดดด้วย
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผ่าน ส.ต.อ.นวัต บุญศรี ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย สำนักกฎหมาย สำนักงาน กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบ และเสนอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ให้ความเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดเฉพาะตัว กรณี 9 สมาชิก สนช. ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการปฏิรูประเทศ เข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคสอง ทำให้ความเป็น สนช.สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (7) หรือไม่ ส่วนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เป็นผู้ดำเนินการแต่งตั้ง การกระทำเข้าข่ายขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามมาตรา 186 วรรคสอง เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)
ทั้งนี้ สนช. 9 คน ประกอบด้วย พล.อ. บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ นายมนุชญ์ วัฒนโกมร พล.อ.อ.อิทธิพร ศุภวงศ์ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ( ตำรวจ) นายอิสระ ว่องกุศลกิจ เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านเศรษฐกิจ นายภิรมย์ กมลรัตนกุล เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านสาธารณสุข และ นายกล้าณรงค์ จันทิก เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านการป้องกันและปราบปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ
“ผมไม่จ้องจะร้องทำลาย สนช. แต่เป็นการว่าตามกฎหมาย อย่างนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็น สนช.ด้วย และก็ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ผมก็ไม่ร้อง เพราะนายสมคิดสวมหมวกอีกใบ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ถือเป็นข้าราชการประจำ ตรงกฎหมายไม่ห้าม สามารถไปดำรงตำแหน่งได้ แต่ทั้ง 9 คนที่ผมร้อง ทุกคนเกษียณอายุกันหมดแล้ว ผมได้สำเนาประวัติบุคคลทั้งหมด ที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ระบุวันเดือนปีเกิดครบแนบมาให้ กกต.ด้วย” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ผมได้ร้องต่อ กกต.ขอให้ดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี และ ครม. ในความผิดเดียวกันนี้ กรณีแต่งตั้งนายธานิศ เกศวพิทักษ์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม .- สำนักข่าวไทย