กรุงเทพฯ 7 ต.ค.-ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่จังหวัดลพบุรีและกำแพงเพชร พร้อมประสานจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก รับมือฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางพื้นที่ในระยะนี้
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากใน 2 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี และกำแพงเพชร รวม 3 อำเภอ 13 ตำบล 47 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 646 ครัวเรือน 1,636 คน โดย จ.ลพบุรี น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองม่วง และอำเภอโคกสำโรง รวม 11 ตำบล 41 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 611 ครัวเรือน 1,538 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ส่วนที่ จ.กำแพงเพชร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอพรานกระต่าน รวม 2 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 35 ครัวเรือน 98 คน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงและอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย และ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
นายชยพล กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมพร้อมรับมือป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัยจากฝนตกต่อเนื่องและปริมาณฝนสะสมในระยะนี้
“โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม โดยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วน” นายชยพล กล่าว.- สำนักข่าวไทย