กทม. 6 ต.ค.-วันพรุ่งนี้จะมีพิธีซ้อมย่อยริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมราชอิสริยยศ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสมือนจริง เป็นครั้งแรก ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา กำลังพลฉุดชักราชรถ-ราชยาน ได้ทุ่มเทแรงกายถวายงานฝึกซ้อม เพื่อให้งดงาม สมพระเกียรติ
กำลังพลกว่า 2,000 นาย จากหน่วยต่างๆ ทั้งกองบังคับการกองผสม, ขบวนทหารนำและตาม, ชุดชักลาก และชุดแบกหามร่วมกันซักซ้อมขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายในกรมทหาราบที่ 11 รักษาพระองค์
การคัดเลือกกำลังพลฉุดชักเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม มีกำลังพลสมัครรับคัดเลือกจำนวนมาก มีทั้งมาเป็นครั้งแรกและเคยผ่านงานพระราชพิธีสำคัญ การคัดเลือกเป็นไปอย่างเข้มข้น กระทั่งได้กำลังพลครบ 435 นาย การฝึกซ้อมตามท่าทาง 7 ท่า คือ ท่าเบื้องต้น, ท่าหยิบเชือก, ท่าวางเชือก, ท่าถวายบังคม, ท่าเดิน, ท่าหยุด, ท่าเดินเปลี่ยนเท้าประกอบเพลงพญาโศกลอยลม ใช้รถบรรทุกขนส่งกำลังพลหรือจีเอ็มซีขนาด 10 และ 2 ตันครึ่ง ฝึกซ้อมเพื่อให้ใกล้เคียงหรือเทียบเท่ากับน้ำหนักจริงของพระมหาพิชัยราชรถและราชรถพระนำมากที่สุด
ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศตามโบราณราชประเพณี พระมหากษัตริย์ทรงได้รับการยกย่องเป็นสมมติเทพ เปรียบเป็นเทวดาจุติลงมาอุบัติบนโลกมนุษย์ เมื่อสวรรคตเท่ากับเสด็จกลับสู่สรวงสวรรค์ พระราชพิธีอันเกี่ยวเนื่องกับพระบรมศพจึงถือเป็นการถวายพระเกียรติยศสูงสุด การอัญเชิญพระบรมศพจากพระมหาปราสาทสู่พระเมรุมาศ ด้วยขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ซึ่งเรียกว่า “ริ้วขบวน” แต่ละริ้วขบวนมีคนหาม คนฉุดชัก พร้อมด้วยเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศ
ตลอด 6 เดือนในการฝึกซ้อม แม้กำลังพลฉุดชักราชรถ-ราชยาน ต้องตากแดดกรำฝน แต่ทุกนายพร้อมถวายงานส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้ายอย่างสมพระเกียรติด้วยหัวใจแห่งความจงรักภักดี.-สำนักข่าวไทย