นักเรียน ม.4 ผวาโดนเพื่อนจับขังแล้วเผาขอย้ายโรงเรียน

ชัยนาท 5 ต.ค.-น้องเอิร์ธนักเรียน ม.4 ผวาโดนเพื่อนจับขังแล้วเผา แม่ขอย้ายโรงเรียนให้ลูกไปอยู่ใกล้บ้าน


จากกรณี นางสาวกชพรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี อาชีพหมอนวดแพทย์แผนไทย ประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา กรณีน้องเอิร์ธ อายุ 14 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท ถูกเพื่อนและรุ่นพี่ แกล้งปิดประตูใส่กุญแจขังไว้ในช่องเก็บของอาคารเรือนนอน แล้วฉีดยาฆ่าแมลงเข้าไป จากนั้นได้จุดไฟแช็ก จนทำให้เกิดประกายไฟลุกท่วม ก่อนจะเผาไหม้ร่างกายของน้องเอิร์ธ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อเย็น วันที่ 20 ก.ย.60


ความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนประจำดังกล่าว พบกับ นายสมเกียรติ สุทธิเจริญพานิชย์ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่าจากการสอบถามเด็กที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงหลังเลิกเรียน เด็กจะกลับไปที่เรือนนอน เพื่อทำภารกิจส่วนตัว ซึ่งเด็กกลุ่มนี้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน โดยเด็กที่บาดเจ็บได้แอบเข้าไปอยู่ในตู้เก็บของ แล้วถูกเพื่อนแกล้งปิดตู้ แต่ไม่ได้ล็อกตู้ ซึ่งเพื่อนก็เรียกให้ออกมาจากตู้ แต่เด็กไม่ยอมออก ยังบอกให้เพื่อนไปซักเสื้อผ้าและให้ไปเอาข้าวมาให้ด้วย เพื่อนๆ พยายามเรียกให้ออกจากตู้ เมื่อไม่ยอมออก จึงเอายาฉีดยุงมาฉีดใส่แกล้งกัน เด็กจึงยอมออกจากตู้ แต่ในจังหวะที่เด็กกำลังจะออกจากตู้ เพื่อนที่อยู่ด้านนอกได้จุดไฟแช็คขึ้นมา ทำให้ประกายไฟวิ่งเข้าไปในตู้ เป็นเหตุให้เด็กได้รับบาดเจ็บดังกล่าว จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาล

หลังจากนั้นได้เรียกผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมาเคลียร์กัน โดยผู้ปกครองของเด็กที่บาดเจ็บ ขอเงินชดเชยจากผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุทั้ง 3 คน เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ทุกๆ 15 วัน จนกว่าเด็กจะออกจากโรงพยาบาล  แต่เนื่องจากผู้ปกครองของเด็กโรงเรียนนี้ ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน จึงยังไม่มีเงินจ่ายให้ แต่ได้มีผู้ปกครองรายแรก มอบเงินให้งวดแรกจำนวน 3,400 บาท ไปก่อน จากนั้นผู้ปกครองรายที่ 2 ก็ได้นำเงินมามอบให้กับโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงนำไปมอบให้ที่บ้าน แต่ผู้ปกครองของเด็กบาดเจ็บไม่ยอมรับเงิน และไม่ยอมติดต่อคุยกับทางโรงเรียน  ซึ่งทางโรงเรียนได้เตรียมพร้อมที่จะให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่อาจมีการสื่อสารบางอย่างที่ทำให้เข้าใจไม่ตรงกัน

ด้านรุ่นพี่หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เล่าว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ตั้งใจที่จะแกล้งน้อง ไม่คิดว่าการเล่นไฟแช็ค จะทำให้เกิดประกายไฟ ขอโทษน้องเอิร์ธที่ทำให้เจ็บ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็ได้ไปเยี่ยมน้องที่โรงพยาบาลและได้พูดคุยขอโทษกันแล้ว 


ในช่วงบ่ายวันนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ พร้อมด้วย นายธีร์ ภวังคนันนท์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียน สนง.คณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปเยี่ยมอาการบาดเจ็บของน้องเอิร์ธที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร โดยนางปวีณา มอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 3,000 บาท ส่วน พมจ.ชัยนาท มอบเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท ให้กับมารดาน้องเอิร์ธ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น

แพทย์หญิง ณัฐภร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร เปิดเผยว่าได้รับตัวเด็กชาย เข้ามารักษาจากการถูกไฟลวกตามร่างกาย มีแผลไฟลวกที่ ขาขวา แขนขวาและเท้าซ้าย แผลถูกไฟลวกประมาณ 10% ของร่างกาย  ซึ่งแพทย์ได้ทำการรักษาตามมาตรฐานการ ส่วนสภาพจิตใจของเด็ก มีสภาพจิตใจดี แม้จะไม่ค่อยพูดคุย แต่ไม่มีอาการเครียดแต่อย่างใด

น้องเอิร์ธเล่าว่า หลังเลิกเรียนได้เข้าไปจัดเสื้อผ้าในตู้เก็บของ จากนั้นก็ถูกเพื่อนปิดตู้ และเอายาฉีดยุงฉีดใส่เข้ามาในตู้ ตนเองได้ขอร้องให้เปิดตู้ บอกไม่ไหวแล้ว จากนั้นก็มีไฟลุกเข้าในตู้ ประมาณ 20 วินาที เพื่อนจึงเปิดตู้ออกแล้วพาตนเองไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งเพื่อนก็ได้มาเยี่ยมที่โรงพยาบาล และได้มีการกล่าวขอโทษกัน แต่ตนเองยังรู้สึกโกรธเพื่อนนิดๆ ที่เล่นกันแรงแบบนี้ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ

หลังเข้าเยี่ยมอาการน้องเอิร์ธ นางปวีณา ได้เข้าร่วมพูดคุยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งให้ความช่วยเหลือน้องเอิร์ธ เกี่ยวกับอาการบาดเจ็บ เพื่อรักษาร่ายกายให้หายสามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ พร้อมทั้งเร่งเยียวยาจิตใจ โดยทางโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้ย้ายน้องเอิร์ธมาพักรักษาอาการในห้องพิเศษ ขณะที่ พมจ.ชัยนาท เตรียมนำนักสหวิชาชีพเข้าพูดคุยเพื่อฟื้นฟูจิตใจ ส่วนทางด้านการเรียน แม่น้องเอิร์ธมีความประสงค์ต้องการขอย้ายลูกไปเรียนที่ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เพราะอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งทาง สพฐ. ก็ยินดีดำเนินการให้ ทางด้านคดีความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินการแล้ว โดยมีการสอบปากคำเด็กที่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว รอให้น้องเอิร์ธหายดี จึงค่อยทำดำเนินการสอบปากคำพร้อมกับนักสหวิชาชีพ 

ด้าน มารดา และ ป้า ของน้องเอิร์ธ  กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่หลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ที่ตนออกมาเรียกร้องก็เพื่อให้ลูกได้รับความเป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย