นครพนม 5 ต.ค.-แม้จะมีฝนตกโปรยปรายลงมาในช่วงเย็น แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อนักท่องเที่ยวที่มาจับจองพื้นที่ริมแม่น้ำโขงเฝ้ารอชมความงดงามตระการตาของขบวนไหลเรือไฟ จ.นครพนม เพื่อสืบสานประเพณีและน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
นักท่องเที่ยวนั่งปักหลักริมแม่น้ำโขงชมขบวนไหลเรือไฟ ซึ่งเพิ่งเริ่มปล่อยออกมา ถือเป็นการสืบสานประเพณีในคืนวันออกพรรษาที่ทำกันมาอย่างช้านานของชาวนครพนม แสงจากเรือไฟเป็นเหมือนดั่งดวงประทีปถวายเป็นพุทธบูชา และขอขมาแม่น้ำโขงที่หล่อเลี้ยงชีวิต ตามความเชื่อที่ว่า เผาความทุกข์ให้ลอยไปกับสายน้ำ ปีนี้ชาวนครพนมยังพร้อมใจกันตกแต่งลวดลายของเรือไฟเกี่ยวข้องกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอาลัยพระผู้สู่สวรรคาลัย และถวายพระพรแสดงความจงรักภักดีสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ดวงไฟเล็กๆ เป็นประกายระยิบระยับในน้ำ คือ กระทงสาย หรือไข่พญานาค ทำหน้าที่เป็นลู่ควบคุมไม่ให้เรือไฟออกนอกเส้นทาง และยังเป็นการประดับผืนน้ำให้สวยงามตระการตาด้วย โดยกว่าเรือไฟจะไหลโชว์ครบทั้ง 13 ลำ ต้องใช้ลู่ไข่พญานาคถึง 30,000 กระทงด้วยกัน ตามกำหนดการเรือไฟลำสุดท้ายเป็นของมหาวิทยาลัยนครพนม และจะไหลผ่านรูปปั้นพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คใหม่ของ จ.นครพนม ซึ่งคณะกรรมการจะรอให้คะแนนอยู่ตรงจุดนั้น
ภาพที่เห็นทั้งหมดนี้คือพลังแห่งความจงรักภักดีของชาวนครพนม ที่เชื่อมต่อร้อยรัดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับคนไทยทั้งประเทศ เพื่อร่วมใจน้อมถวายอาลัย ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย.-สำนักข่าวไทย