กรม สบส.3 ต.ค.-แพทย์ชี้นวดเพื่อรักษาและผ่อนคลายแตกต่าง ต้องเลือกสถานที่รับบริการให้ดี ย้ำทุกแห่งที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ต้องประเมินสภาพร่างกายผู้รับบริการนวดทุกครั้ง ป้องกันอันตราย
นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันแม้วิทยาการทางการแพทย์จะมีความก้าวหน้ามาก แต่ความนิยมใช้ศาสตร์เก่าแก่อย่างนวดไทยมาใช้ดูแลสุขภาพ บำบัดรักษาอาการเจ็บปวดของร่างกายยังได้รับความนิยม โดยเฉพาะการนวดจับเส้นในการรักษา ซึ่งต่างจากการนวดเพื่อผ่อนคลายหรือส่งเสริมสุขภาพเพราะเป็นการนวดเพื่อบำบัด รักษาโรค และฟื้นฟูสุขภาพโดยใช้ศาสตร์นวดไทย ซึ่งยังมีประชาชนหลายคนยังขาดความเข้าใจในการเลือกรับบริการนวดจากสถานที่ๆถูกต้อง เหมาะสม ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนเลือกรับบริการได้ตรงความต้องการและตอบโจทย์สุขภาพได้มากที่สุด กรมจึงขอแนะนำให้ประชาชนทุกคนประเมินร่างกายตนเองเบื้องต้นก่อนรับบริการนวดทุกครั้ง หากพบร่างกายมีอาการเจ็บ ปวดหรือมีความผิดปกติ และต้องการนวดเพื่อรักษา ฟื้นฟูสุขภาพ อย่างการนวดจับเส้น ขอให้เลือกรับบริการจากสถานพยาบาลการแพทย์แผนไทย ซึ่งผู้ให้บริการนวดต้องเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้านเวชกรรมไทย, ด้านนวดไทยหรือด้านการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากสภาการแพทย์แผนไทยเท่านั้น
สามารถสังเกตหลักฐานสถานพยาบาล 3 ประการ เพื่อความมั่นใจว่าสถานพยาบาลดังกล่าวเป็นสถานพยาบาลถูกต้องตามกฎหมาย 1.แสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลักให้เห็นได้ชัดเจนที่ด้านหน้าสถานพยาบาล 2.มีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการ และ3.แสดงป้ายชื่อ-สกุล รูปถ่าย พร้อมกับเลขที่ใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพของแพทย์ติดหน้าห้องตรวจ ซึ่งต้องตรงกับตัวจริงที่ให้บริการขณะนั้น
อย่างไรก็ตามแต่หากต้องการนวดเพื่อส่งเสริมสุขภาพ หรือผ่อนคลาย ให้เลือกรับบริการจากสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ประเภท สปา นวดเพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมความงามที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการจากกรม สบส.หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งผู้ให้บริการนวดต้องได้รับประกาศนียบัตรตามหลักสูตรที่กรมให้การรับรองและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้ บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพถูกต้องตามกฎหมาย และสังเกตหลักฐาน 3 ประการ 1.แสดงสติ๊กเกอร์มาตรฐาน สบส.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ตามประเภทกิจการ ให้เห็นชัดเจนที่จุดบริการ 2.แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 3.แสดงใบอนุญาตผู้ดำเนินการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (กรณี สถานประกอบการเพื่อสุขภาพประเภทสปา)
ขณะเดียวกันเพื่อความปลอดภัยประชาชน ขอย้ำให้สถานพยาบาลหรือสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทุกแห่ง ตรวจประเมินสภาพร่างกายผู้มารับการนวดทุกครั้ง ทั้งวัดความดันโลหิต ซักประวัติอาการป่วย เพื่อประเมินแนวทางการรักษาหรือการนวดเพื่อความผ่อนคลายได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะบุคคลที่มีอาการ ดังนี้ คือมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส มีอาการโรคติดเชื้อเฉียบพลัน มีการอักเสบจากการติดเชื้อ กระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ข้อเคลื่อน เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวานที่ยังควบคุมอาการให้เป็นปกติไม่ได้ มีโรคผิวหนังมีแผลเปิดเรื้อรัง โรคติดต่อระยะแพร่เชื้อ โรคมะเร็ง แผลหลังผ่าตัดยังไม่หายสนิท หลอดเลือดดำอักเสบ และกระดูกพรุนรุนแรง ห้ามให้บริการนวดแผนไทยเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตรายได้ .-สำนักข่าวไทย