นายกฯ พอใจผลการเยือนสหรัฐฯ

กรุงวอชิงตัน ดีซี 2 ต.ค.-นายกรัฐมนตรีพอใจผลการเยือนสหรัฐฯ หลังได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเดินหน้าสานต่อความร่วมมือทุกมิติบนพื้นฐานความเป็นมิตรประเทศที่ยาวนานที่สุดในเอเชีย ยืนยันกับผู้นำสหรัฐฯ ปีหน้าจะประกาศวันเลือกตั้ง


“บุษยา อุ้ยเจริญ” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 5 ตุลาคม 2560 รายงานว่า นายกรัฐมนตรี  และนางนราพร จันทร์โอชา  ภริยา  เดินทางถึงทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา  เวลา 12.20 น. ของวันที่ 2 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 11 ชั่วโมง โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนางเมลาเนีย ทรัมป์ ภริยา รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น 


จากนั้น เวลา 12.40 น. ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นำนายกรัฐมนตรีเข้าห้องทำงานรูปไข่ เพื่อร่วมหารือสองต่อสอง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที 

นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ลาสเวกัส และพายุเฮอร์ริเคน และเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำพาของประธานาธิบดีทรัมป์  จะทำให้การคลี่คลายปัญหาเป็นไปด้วยดีและรวดเร็ว และว่า การพบกันวันนี้ หารือกันในหลายประเด็น ทั้งด้านความมั่นคง ภัยคุกคาม และประเด็นที่มีความสำคัญในภูมิภาค รวมถึง การค้าการลงทุน การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน  


“ภายใต้ความสัมพันธ์ที่ยาวนานเกือบ 200 ปี และอย่างเป็นทางการ 184 ปี จึงเชื่อมั่นว่า ภายใต้การนำพาของประธานาธิบดีทรัมป์ จะสานต่อความสัมพันธ์นี้ไปอย่างต่อเนื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรียังชื่นชมสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ ที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งไทยพร้อมให้การสนับสนุน เพราะไทยให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ด้อยโอกาส 

ด้าน ประธานาธิบดีทรัมป์  แสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมพูดถึงความพร้อมในการขยายความร่วมมือทางด้านการค้าระหว่างกัน เพราะเห็นว่าไทยมีศักยภาพด้านทรัพยากรต่าง ๆ และวัตถุดิบ รวมทั้ง ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ และว่า จะไปเยี่ยมผู้ประสบเหตุพายุเฮอร์ริเคนในวันที่ 3 ตุลาคม    และจะเดินทางไปลาสเวกัสในวันที่ 4 ตุลาคม  

จากนั้น เวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริการ่วมหารือกับนายกรัฐมนตรี  แบบเต็มคณะ ในรูปแบบการหารือระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน หรือ working Lunch  โดยมีรัฐมนตรีและผู้บริหารเข้าร่วม อาทิ นายสมคิด จาตุศรรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บรรยากาศหน้าทำเนียบขาว มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด  หลังเกิดเหตุกราดยิงในลาสเวกัส เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่น  โดยมีการตรวจตรา และใช้สุนัขดมกลิ่นอุปกรณ์เครื่องมือของสื่อก่อนที่จะเข้าไปไปภายในทำเนียบขาวด้วย

ต่อมา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการเยือนสหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ ว่า เป็นการเยือนของผู้นำประเทศไทยในรอบ 12 ปี ซึ่งรู้สึกประทับใจในการต้อนรับของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เป็นไปอย่างอบอุ่น ผู้นำสหรัฐฯ ได้แสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของโลก และครองราชย์มายาวนานถึง 70 ปี

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการหารือกันแบบสองต่อสอง  ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายคาดหวังว่า จะมีความร่วมมือกันให้มากขึ้นในทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคงภายในประเทศและในภูมิภาค การค้า การลงทุน การเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน

“ในระหว่างการหารือ ไม่ได้ถูกกดดันใด ๆ และประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้เกียรติกับผมและประเทศไทย จึงถือโอกาสนี้เชิญผู้นำสหรัฐฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อมีโอกาส” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ส่วนการหารือแบบเต็มคณะระหว่างไทยกับสหรัฐฯ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยกันในรายละเอียดถึงการเสริมสร้างความมั่นคงภายในและในภูมิภาค ทั้งการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึง ภัยในโลกไซเบอร์ ว่าจะร่วมมือกันอย่างไร โดยเฉพาะความร่วมมือกันด้านข่าวกรอง และการดูแลความปลอดภัยตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมือในทุกประเด็น รวมทั้ง ข้อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ในด้านความมั่นคงด้วย ซึ่งสหรัฐฯ ไม่ได้ขัดข้อง

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ยังได้มีการพูดคุยกันถึงการค้าและการลงทุน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน  ขณะเดียวกัน  ฝากผู้นำสหรัฐฯ ดูแลนักลงทุนไทยกว่า 20 บริษัทที่มาลงทุนในสหรัฐฯ และสิ่งที่ได้เน้นย้ำในการพูดคุยคือ ความร่วมมือด้านสินค้าเกษตร เพื่อหามาตรการในการเพิ่มราคาให้มากขึ้น ถือเป็นการดูแลเกษตรของไทย

ต่อกรณีที่มีความเป็นห่วงเรื่องการตกลงซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องกังวล เพราะการดำเนินการจะต้องเป็นไปตามแผนพัฒนากองทัพในระยะ 5-10 ปี ซึ่งต้องมาพิจารณาว่า จะจัดซื้อยุทโธปกรณ์ใดจากสหรัฐฯ ได้บ้าง รวมทั้งต้องดูในเรื่องงบประมาณ ขณะเดียวกัน ได้ขอให้สหรัฐฯ ดูแลเรื่องคุณภาพที่สูง ในราคาที่จำกัด

ส่วนสถานการณ์เกาหลีเหนือนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ยืนยันกับผู้นำสหรัฐฯ ว่า จะดำเนินการทุกอย่างตามพันธกรณี รวมถึง ยืนยันความพยายามที่จะดูแลให้เกิดความสงบเรียบร้อยในภูมิภาค โดยเฉพาะปัญหาในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา โดยสนับสนุนให้แก้ปัญหาภายในให้ได้โดยเร็วและได้มีการประสานกับผู้นำเมียนมาไปแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ถือว่าผลสรุปการเยือนเป็นที่น่าพอใจ และต้องขอบคุณที่ให้เกียรติกับเรา ซึ่งเราเป็นมิตรมายาวนาน ในขณะที่เรามีปัญหามีข้อจำกัดมากมาย แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ให้เกียรติผม เรามองปัญหาเดียวกัน คือ จะทำอย่างไร เพื่อให้คนที่ไม่เข้าถึงโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และได้พูดถึงความร่วมมือการค้าระหว่างกัน 

“ ในการพบปะหารือกันในครั้งนี้  ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้สอบถามถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย แต่ผมได้เล่าให้ฟังถึงการเดินหน้าประเทศไทย ว่าเป็นไปตามหลักสากล โดยจะเดินตามโรดแมปที่ประกาศไว้  โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง และในปีหน้า จะประกาศวันเลือกตั้งอย่างแน่นอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว .- สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]