กรุงเทพฯ 30 ก.ย.–“กสิกรไทย” ประเมินบาทมีโอกาสอ่อนค่าอีก
หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่ามากสุดในรอบ 2 เดือน เหตุ เฟดย้ำขึ้นดอกเบี้ย
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด รายงานว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่
33.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นได้เล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ โดยเงินบาทเผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ฯ
จากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดที่ระบุย้ำความจำเป็นของเฟดที่จะต้องทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย
แม้ทิศทางเงินเฟ้อจะไม่แน่นอน นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ
ยังมีปัจจัยบวกจากการเปิดเผยแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัล ทรัมป์ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้
เงินบาททยอยอ่อนค่าสอดคล้องกับแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในตลาดพันธบัตรไทย
ก่อนจะสามารถฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับทิศทางก่อนสิ้นไตรมาสของนักลงทุน
และอาจจะมีแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของผู้ส่งออกด้วยเช่นกัน โดยในวันศุกร์ (29 ก.ย.)
เงินบาทอยู่ที่ 33.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ จากระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า
(22 ก.ย.
ด้านดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวนช่วงปลายสัปดาห์
โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,673.16 เพิ่มขึ้น 0.85% จากสัปดาห์ก่อน
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณ 11.13% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 56,833.86
ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 570.66 จุด ลดลง 0.72%
จากสัปดาห์ก่อน
สำหรับสัปดาห์ถัดไป
(2-6 ต.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.25-33.55
บาทต่อดอลลาร์ฯ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า
ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,660 และ 1,645 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,680 และ 1,690 จุด ตามลำดับ ทั้งนี้จุดสนใจของตลาดน่าจะอยู่ที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดอื่นๆ
รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร
การจ้างงานภาคเอกชน ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ย.
และยอดสั่งซื้อของโรงงาน รายจ่ายด้านการก่อสร้างเดือนส.ค. นอกจากนี้
ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขดัชนี PMI เดือนก.ย.
ของประเทศชั้นนำอื่นๆด้วยเช่นกัน –สำนักข่าวไทย