fbpx

กกร. เตรียมขยับจีดีพีปีนี้เพิ่ม

กรุงเทพ ฯ  28 
ก.ย.    กกร. เตรียมปรับจีดีพีปีนี้เพิ่ม
เช่นเดียวกับธนาคารกสิกรไทย มองจีดีพีปีนี้โตร้อยละ
  4 ผลบวกจากการส่งออกที่โตถึงร้อยละ  7 


นายปรีดี ดาวฉาย
ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ  กกร. สัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
(จีดีพี) ในปีนี้  จากเดิมคาดว่าโตร้อยละ
3.5  เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นเกือบทั้งหมด
แต่ยอมรับว่าการฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะภาคการเกษตร คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน
เพราะราคาสินค้าเกษตรยังไม่สูงขึ้น


ส่วนกรณีที่ธนาคารพาณิชย์บางแห่งมีพฤติกรรมสนับสนุนให้ลูกค้าผู้ฝากเงินหลีกเลี่ยงการชำระภาษีเงินได้จากดอกเบี้ยรับส่วนที่เกินกว่า
20,000 บาท นั้น ในการประชุมสมาคมธนาคารไทยครั้งหน้าจะหารือในเรื่องนี้ว่า
อย่าไปเลี่ยงกฎหมาย ในฐานะผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน
ผู้บริหารควรตระหนักว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ 
ซึ่งในเรื่องภาษีนี้ กรมสรรพากรจะเข้าไปตรวจสอบ

“ ธนาคารพาณิชย์ก็คงอยากให้ลูกค้าได้ผลตอบแทนมากที่สุด
แต่ที่สำคัญต้องอย่าทำผิดกฎหมาย อย่าไปเลี่ยงการเสียภาษี” นายปรีดี กล่าว

ด้านนายกอบสิทธิ์ ศิลปะชัย
ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจ และตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในการสัมมนา
ทิศทางค่าเงินและอัตราดอกเบี้ยไตรมาสสุดท้ายปี 2560 ระบุถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในภาพรวมในปีนี้
ซึ่งในปี 2560 ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ประมาณการณ์ว่า เศรษฐกิจไทย หรือ
GDP จะขยายตัวได้ร้อยละ
3.8  และในส่วนของภาคเอกชนเชื่อว่า ในปี
2561 เศรษฐกิจไทย จะยังเติบโตต่อเนื่อง
GDP จะขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ
4 อย่างไรก็ตามการเติบโตดังกล่าว พบว่ามาจากการขยายตัวที่พึ่งพิงภาคต่างประเทศ
ทั้งในด้านการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนให้เห็นความไม่สมดุลของเศรษฐกิจไทย
ในขณะที่ภาคการบริโภคในประเทศยังขยายตัวระดับต่ำ
ทำให้มีความเสี่ยงหากสถานการณ์โลกมีความผันผวน เช่น เกิดภาวะสงครามที่ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลก
ชะลอตัว ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไปด้วย


นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยความไม่สมดุล
เช่นปัจจุบัน สัดส่วนหนี้สาธารณะ ต่อจีดีพีของไทย ซึ่งอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40
ต่อจีดีพี .ถือว่าภาระหนี้ของประเทศไม่สูง แต่เมื่อไปเปรียบเทียบกับภาระหนี้ต่อครัวเรือนของไทย
ที่ปัจจุบันสูงถึงร้อยละ 80 ต่อจีพีดี เป็นสัดส่วนที่สูง  ซึ่งภาระหนี้ต่อครัวเรือนที่สูงนี้
จะกระทบกับกำลังซื้อและบริโภคในประเทศได้ 
จึงเป็นโจทย์ให้รัฐบาลไปพิจารณา 
ในระยะสั้น รัฐบาลคงมีมาตรการช็อปช่วยชาติออกมา เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ
แต่ในระยะยาว อาจต้องใช้การปรับโครงสร้างทางภาษี เพื่อลดภาระของประชาชน
นำมาเพิ่มกำลังซื้อ

ส่วนภาวการณ์ลงทุนของประเทศ  โดยเฉพาะในปี 2561 ที่ปัจจุบันเอกชนให้ความสนใจ
ที่จะเข้าลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ
EEC  อย่างไรก็ตามภาคเอกชนพบว่า
ไทยจะมีปัญหาการขาดแคลนแรงงาน
ที่จะนำมาสู่พื้นที่อุตสาหกรรมเหล่านี้จำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน

นอกจากนี้ งานวิจัยเศรษฐกิจ
และตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย  ยังระบุด้วยว่า
ในด้านการเมืองนั้น รัฐบาลจำเป็นต้องเดินตามโรดแมป
จัดให้มีการเลือกตั้งในปีหน้า 
ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้