กทม. 26 ก.ย.-สีสันเศรษฐกิจ วันนี้เอาใจแฟนคลับตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ จะพาไปเที่ยวที่ Teddy Castle ปราสาทตุ๊กตาหมี และพูดคุยกับผู้บริหารถึงไอเดียในการปรับโฉมธุรกิจพลิกสถานการณ์จากลบมาเป็นบวกสู่ยุค 4.0
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในภาวะที่เศรษฐกิจซึมๆ สินค้าที่ไม่ใช่ปัจจัย 4 ยอดขายก็ลดลงไปด้วย รวมทั้งตุ๊กตาหมี หรือเท็ดดี้แบร์ตัวโปรดของใครหลายคนยอดขายลดลงไปถึง 50% ดังนั้น การที่ธุรกิจจะอยู่รอดจึงต้องปรับตัวครั้งใหญ่
“คุณฟา” ปิตุภูมิ หิรัณยพิชญ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เท็ดดี้ เฮ้าส์ จำกัด ผู้บริหารรุ่นที่ 2 เล่าให้ฟังว่า แม้จะมีแบรนด์ที่แข็งแรง สินค้ามีคาแร็คเตอร์เฉพาะ การขายปลีกผ่าน 30 สาขาในไทยเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยให้ธุรกิจรอด จึงต้องรุกหนักขยายไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีกำลังซื้อสูงอย่างอินโดนีเซีย จีน และแคนาดา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีฟิตแบ็กที่ดี ขณะเดียวกันต่อยอดสู่การขาย “ไลเซนส์” จับมือทำสินค้าโคแบรนด์ นำคาแร็คเตอร์ตุ๊กตาหมีมาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกู้สถานการณ์ของบริษัท จนสามารถพลิกกลับมามียอดขายเติบโตได้
พร้อมกันนี้ยังไม่ทิ้งความฝันที่ต้องการจะเปิดพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ แต่นำร่องก่อนด้วยการเปิดเท็ดดี้ แคสเซิล ปราสาทแห่งตุ๊กตาหมี ใจกลางทองหล่อ ดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะวัยรุ่น เจนวาย ที่รักเท็ดดี้แบร์ มาถ่ายรูปในธีมต่างๆ ซึ่งไม่ต้องบินไกลไปถึงต่างประเทศอีกแล้ว พร้อมกันนี้ยังมีเวิร์กช็อปให้นักท่องเที่ยวได้ทำกิจกรรม ซึ่งกระแสตอบรับเป็นไปด้วยดี
คุณฟา ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ มองว่าโมเดลในการทำธุรกิจในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยคิดว่าจะเติบโตคนเดียว ต้องรู้จักเปิดใจให้กว้าง พูดคุย หาพันธมิตรทางธุรกิจ สำหรับโลกการค้าในอนาคต ส่วนแผนการเติบโตในยุค 4.0 จะเน้นพัฒนาด้านออนไลน์ เพื่อขายไปทั่วโลก เชื่อมกับโซเชียลมีเดีย กับทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เพื่อให้ตุ๊กตาหมีฝีมือคนไทยอยู่ในใจของคนรักเท็ดดี้แบร์ทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย