fbpx

นักวิชาการ ม.รังสิตปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 3.8-4.3

กรุงเทพฯ  24 ก.ย. – นักวิชาการ ม.รังสิตปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้ขยายตัวร้อยละ 3.8-4.3 หลังส่งออกพุ่ง ลงทุนเอกชนกระเตื้อง ท่องเที่ยวโต  


นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการและคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า ทางคณะเศรษฐศาสตร์และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูปประเมินตัวเลขจีดีพีและเศรษฐกิจไทยใหม่ หลังจากภาคส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าหลัก และการเติบโตเพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียน การกระเตื้องขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน การท่องเที่ยวเติบโตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้จะอยู่ที่ร้อยละ 3.8-4.3  จากเดิมร้อยละ  3.6-4.2 อัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวระดับต่ำและปรับตัวเลขอัตราเงินเฟ้อทั้งปีมาอยู่ที่ร้อยละ 0.8-1 อัตราการขยายตัวของการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 6-7 ส่วนการแข็งค่าของเงินบาทไม่ส่งผลต่อความสามารถการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ 

สำหรับเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 อย่างไรก็ตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังคงกระจุกตัวในบริษัทขนาดใหญ่และนักธุรกิจส่งออก รวมทั้งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รายได้และผลประโยชน์ยังไม่กระจายมายังประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะประชาชนฐานรากภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมล่าสุด ขณะที่กิจการขนาดเล็กขนาดกลางยังมีปัญหาการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งมีลักษณะเป็น Disruptive Technology และการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว การปรับตัวต่อการเปิดเสรีที่เพิ่มขึ้นตามลำดับและการบูรณาการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตลาดภูมิภาค    


นายอนุสรณ์ กล่าวว่า  เศรษฐกิจไตรมาส 4 ปัจจัยภายนอกที่ต้องจับตา คือ การจัดการด้านงบประมาณและเพดานหนี้ของสหรัฐอเมริกา ผลกระทบของ QE Exit ด้วยการลดขนาดสินทรัพย์ของธนาคารกลางสหรัฐที่มีต่อตลาดการเงินโลก สถานการณ์ความขัดแย้งทางการทหารในคาบสมุทรเกาหลี การเจรจาทบทวนข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ผลกระทบจากการถูกปรับลดอันดับเครดิตของจีนและปัญหาหนี้สินของระบบธนาคารของจีน ส่วนปัจจัยภายใน การกระจุกตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อกลุ่มฐานรากที่ยังอ่อนแอ ความล่าช้าของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และ ความไม่แน่นอนของการกลับคืนสู่ประชาธิปไตย.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด