รร.มิราเคิล 13 ก.ย.-นานาชาติชื่นชมไทย ในการเป็นผู้นำแก้ปัญหาค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย จับมือ10ประเทศอาเซียนบวกจีน ร่วมแก้ปัญหาการค้าข้ามชาติอย่างจริงจัง
ผู้แทนจากประเทศในอาเซียนและประเทศจีน รวม10ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ ร่วมประชุมนานาชาติและต่อต้านการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดหฎหมายครั้งที่ 4 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อแสดงเจตจำนงค์ในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่ารวมทั้งแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
นายสก๊อต เพอร์คิน ผู้แทน IUCN ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้เป็นการขยายความร่วมมือจากเดิมมีเพียงแค่ 4 ประเทศในอาเซียนมาคุยกันในเฉพาะเรื่องปัญหาไม้พะยูง ครั้งนี้ได้ขยายความร่วมมือครอบคลุมถึงสัตว์ป่าและพืชป่า ที่มีปัญหาการลักลอบค้ารุนแรง ได้แก่ เสือโคร่ง ตัวลิ่น งาช้างและนอแรด ซึ่งการได้มาพูดคุยกันจะทำให้มีแผนป้องกันร่วมมือแก้ปัญหา ในระดับภูมิภาคที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกล่าวชื่นชมประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคในการต่อสู้กับปัญหาอาชญากรรมการค้าสัตว์ป่ามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้สนับสนุนให้ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนร่วมมือด้วน เช่นความร่วมมือไทยพม่า ความร่วมมือไทยกัมพูชา รวมทั้งการสร้างโปรแกรมออนไลน์ในการป้องกันการค้าสัตว์ป่า ที่สำคัญIUCN ได้ชื่นชมไทยในการแก้ปัญหาที่มุ่งเน้นให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมมือในการแก้ปัญหาอย่างจริงจังและยั่งยืน
เช่นเดียวกับ นางสาวซินเทีย กิล ผู้แทนพิเศษ องค์กรUSAID จากสหรัฐอเมริกา กล่าวแสดงความชื่นชมการเป็นผู้นำของไทยในการป้องกันการค้าสัตว์ป่าและเป็นศูนย์กลาง ของอาเซียนในการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังโดยสหรัฐอเมริกาได้ให้ความสนใจในปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าได้มีการแก้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและปราบปรามการค้าสัตว์ป่าซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และมุ่งเน้นไปดูที่ตลาดการค้าว่ามีอยู่ที่ไหนและจะดำเนินการแก้ปัญหาอย่างไร รวมทั้งจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการกับปัญหาให้มากขึ้น รวมถึงการออกแคมเปญ ออนไลน์ของWildaid ให้ผู้มีชื่อเสียงหรือดารามาสร้างกระแสในการลดการใช้ผลิตภัณฑ์จากงาช้าง เป็นต้น
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ไทยได้แสดงเจตนารมณ์ในการให้ชาวโลกเห็นว่าได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าอย่างจริงจัง โดยตลอด 3ปีที่ผ่านมา ได้แก้ปัญหาการค้างาช้างจนได้รับการเลื่อนสถานะดีขึ้นกว่าเดิม และได้รับคำชื่นชมจากผู้แทนไซเตส ซึ่งไทยยังคงเดินหน้า ในการแก้ปัญหาการค้าสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ทั้งตัวลิ่น นอแรด รวมทั้งพืชป่าที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภค โดยการพูดคุยกันในระดับหน่วยงานภาครัฐของแต่ละประเทศจะมีความร่วมมือที่มากขึ้นและจะมีมาตรการเข้มของภาครัฐในการรับมือกับสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนวิธีการไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะดำเนินการกับผู้กระทำผิดให้ถึงต้นตอหรือผู้สั่งการได้ เนื่องจากการจับกุมที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ได้เฉพาะของกลาง ส่วนผู้ต้องหา จะหลบหนีไปได้ ซึ่งอาจจะเอาผิดต้องเป็นการจับกุมซึ่งหน้าหรือคาหนังคาเขาเท่านั้น ซึ่งบทลงโทษยังไม่รุนแรง ขณะนี้กำลังมีการปรับปรุงกฎหมายให้มีบทลงโทษเพิ่มขึ้น
ส่วนการควบคุมการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าทางระบบออนไลน์ที่มีมากขึ้นในระยะหลัง ไทยได้มีหน่วยเหยี่ยวดง ซึ่งดูแลในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ปัจจุบันการค้าสัตว์ป่าผ่านระบบออนไลน์ลดลง แต่พบการค้าพืชป่าเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย
