เชียงใหม่ 12 ก.ย. – ช่วงนี้อาจจะไม่ใช่ช่วงฮิตของการขึ้นดอย แต่ความจริงแล้วดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เที่ยวได้ทุกฤดูกาล และทางอุทยานมีแนวคิดร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติหลายโครงการที่ส่งผลดีมายังคนพื้นล่าง
ทางเดินนี้เดินรอบบึงอ่างกา ที่มีสภาพตื้นเขิน หนาแน่นไปด้วยข้าวตอกฤาษี ดูเหมือนผืนพรมธรรมชาติ เป็นพันธุ์มอสที่ปรับตัวได้เก่ง หน้าแล้งจะหยุดพักการดำรงชีวิตแบบปกติ ก่อนจะกลับมาเขียวขจีในหน้าฝน รอบๆ บึงจะต้นไม้ใหญ่ นับเป็นบึงเดียวในเมืองไทยที่มีพืชพรรณไม้ เหมือนประเทศหนาวจัดเช่น จีน ยุโรป ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะดอยอ่างกาหรือดอยอินทนนท์ เป็นเทือกเขาเชื่อมต่อกับเทือกเขาหิมาลัย ยอดดอยดึงดูดเมฆฝนและหมอก มีน้ำฝน 4,000 มิลลิเมตรต่อปี นับเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญ
บนดอยมีชาวเขาทั้งม้งและกะเหรี่ยงอยู่อาศัยถึง 17 หย่อมบ้าน ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ประสานทั้งชาวบ้าน เอกชน และหลายหน่วยงาน ร่วมป้องกันการปกป้องผืนป่า ทำที่พักรับนักท่องเที่ยว ส่วนการปลูกพืชเมืองหนาวก็รณรงค์การทำเกษตรแบบอินทรีย์ควบคู่ไปกับหาช่องทางตลาด
หนึ่งในโครงการคือรณณงค์ลดผลจากแสงที่เกิดจากการติดไฟปลูกดอกเบญจมาศ ที่ขณะนี้เริ่มทำโครงการ ดาร์กสกาย หวังลดการกระเจิงของแสงสู่ท้องฟ้าที่เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ
หากฟ้าไม่จ้าเกินไปจากแสงไฟ นักท่องเที่ยวไปพักบนดอยก็จะเห็นดาวต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ดอยอินทนนท์ยังเป็นที่ตั้งของหอดูดาวแห่งชาติที่มีขนาดใหญ่สุดในอาเซียน ใช้กล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง ใช้กระจกรวมแสงเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร เป็นที่ศึกษาวิจัยสังเกตท้องฟ้าได้ทั้งซีกใต้และซีกเหนือ. – สำนักข่าวไทย
