มูลนิธิไทยรักษ์ป่า เปิดตัวหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์”

กรุงเทพฯ 5 ก.พ.- EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า เปิดตัวหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” ใช้เวลากว่า 2 ปี ร่วมกับช่างภาพสายธรรมชาติชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ถ่ายทอดคุณค่าป่าต้นน้ำและบ้านของสัตว์ป่าในดอยอินทนนท์


บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า เปิดตัวหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” ถ่ายทอดคุณค่าและความสวยงามของป่าต้นน้ำดอยอินทนนท์ ในฐานะบ้านของสัตว์ป่าและพืชพรรณ ตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งเป็นสื่อกลางสะท้อนแนวคิดการดำเนินงาน “คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้ และสัตว์ป่าอยู่ได้” โดยร่วมกับช่างภาพสายธรรมชาติชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้แก่ ณรงค์ สุวรรณรงค์ และธเนศ งามสม เป็นเวลากว่า 2 ปี ในการบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติและระบบนิเวศของสิ่งมีชีวิตในป่าเมฆ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในวงกว้างถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำ ตลอดจนความเชื่อมโยงของสิ่งมีชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพในป่าเมฆ ซึ่งจะนำไปสู่การปลูกจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายทั้งหมดจะนำไปสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิไทยรักษ์ป่าเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำต่อไป

ดร.จิราพร ศิริคำ ประธานกรรมการมูลนิธิไทยรักษ์ป่า และกรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group เปิดเผยว่า ด้วยความเชื่อที่ว่า “ต้นทางดี จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ปลายทางที่ดี” EGCO Group มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนมากว่า 33 ปี ในด้านสิ่งแวดล้อม EGCO Group ให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าต้นน้ำในพื้นที่สำคัญของประเทศไทย โดยดอยอินทนนท์เป็นพื้นที่การดำเนินงานสิ่งแวดล้อมที่แรกของ EGCO Group ด้วยเล็งเห็นว่า เป็นป่าต้นน้ำสำคัญที่อยู่สูงที่สุดของประเทศไทย เป็นต้นกำเนิดของชีวิตและพลังงาน อีกทั้งเป็น “ป่าเมฆ” บ้านของสัตว์ป่าและพืชพรรณ ตลอดจนความหลากหลายทางชีวภาพ


EGCO Group ริเริ่มดำเนินโครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2540 ผ่านโครงการต่าง ๆ ที่เน้น “การปลูกจิตสำนึกในใจคน” เช่น โครงการค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า เพราะเชื่อว่าเป็นหนทางที่จะทำให้ธรรมชาติดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนที่สุด จนกระทั่งก่อตั้งมูลนิธิไทยรักษ์ป่าขึ้นในปี 2545 ด้วยมุ่งหวังให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่มีเจตนารมณ์ในการสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผืนป่าต้นน้ำลำธารของประเทศให้เกิดความยั่งยืน

“กว่า 22 ปีที่มูลนิธิไทยรักษ์ป่ามุ่งมั่นส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ปลูกจิตสำนึกการมีส่วนร่วมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในใจของเยาวชนและผู้คน เพื่อให้เกิดแนวร่วมในการดูแลรักษาป่าต้นน้ำ ผ่านโครงการต่าง ๆ ได้แก่ ค่ายเยาวชนเอ็กโกไทยรักษ์ป่า การพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และการดำเนินงานในฐานะโซ่ข้อกลาง เพื่อให้ “คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้ และสัตว์ป่าอยู่ได้” ทั้งนี้ การริเริ่มและจัดทำหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่เราต้องการสื่อสารและถ่ายทอดให้ผู้คนได้สัมผัสและตระหนักถึงคุณค่า ความสวยงามของดอยอินทนนท์ ที่เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่มีความสำคัญในฐานะที่เป็นระบบนิเวศป่าต้นน้ำและป่าเมฆที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นบ้านของสัตว์ป่า พืชพรรณ และความหลากหลายทางชีวภาพ EGCO Group โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ยังมุ่งหวังว่า ความตระหนักรู้ที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นพลังที่เชื่อมโยงป่าต้นน้ำและผู้คนในเมืองที่อยู่ปลายน้ำเข้าด้วยกัน รวมถึงทำให้สังคมได้เปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับดอยอินทนนท์ ซึ่งจะนำไปสู่จิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติและป่าต้นน้ำ ตลอดจนความร่วมมือในการอนุรักษ์ดูแล หรือท่องเที่ยวอินทนนท์อย่างยั่งยืนในที่สุด” ดร.จิราพร กล่าว

นายณรงค์ สุวรรณรงค์ หนึ่งในช่างภาพของหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” เปิดเผยว่า หนังสือภาพถ่ายเล่มนี้เล่าเรื่องราวผ่านการติดตามชีวิตและการเติบโตของกวางผา ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่โดดเด่นของดอยอินทนนท์ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวของสัตว์และพืชพรรณอื่น ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกันในป่าเมฆ เช่น นกกินปลีหางยาวเขียว อ่างกาเอนซิส ชะนีมือขาว ปาดดอยอินทนนท์ เป็นต้น เพื่อสื่อสารว่า ถ้าทุกคนท่องเที่ยวดอยอินทนนท์ด้วยความเคารพต่อธรรมชาติแล้ว ก็จะสามารถรักษาและสัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์เหล่านี้ได้รอบตัว


นายธเนศ งามสม หนึ่งในช่างภาพของหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” กล่าวว่าจากการทำงานในดอยอินทนนท์เป็นเวลา 2 ปี ทำให้ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของป่าเมฆ ผมหวังว่าหนังสือภาพถ่ายเล่มนี้จะทำให้คนมาเยือนดอยอินทนนท์ด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป คือ ไม่ได้มาท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่มาเพื่อรักษา เรียนรู้ และซึมซับคุณค่าในห้องเรียนธรรมชาติด้วย

ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อหนังสือภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” ราคาเล่มละ 2,500 บาท ได้ที่ Facebook Page มูลนิธิไทยรักษ์ป่า www.facebook.com/thairakpaofficial โดยรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายจะนำไปสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิไทยรักษ์ป่าเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำต่อไป บัญชีมูลนิธิไทยรักษ์ป่า เลขที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ 229-0-599778-6 (ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า)

นอกจากนี้ เพื่อสื่อสารสร้างความตระหนักรู้ต่อคุณค่าและความสำคัญของป่าเมฆ ดอยอินทนนท์ และให้หนังสือภาพถ่ายเป็นที่รู้จักมากขึ้น มูลนิธิฯ ยังได้จัดนิทรรศการภาพถ่าย “ลมหายใจในป่าเมฆ ดอยอินทนนท์” นำภาพถ่ายไฮไลท์จากหนังสือภาพถ่ายกว่า 50 ภาพ มาจัดแสดง ณ ผนังโค้ง ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ระหว่างวันที่ 4 – 16 กุมภาพันธ์ 2568 โดยเปิดให้เข้าชมฟรี ทั้งนี้ ในช่วงเวลาของการจัดนิทรรศการ ผู้สนใจสามารถซื้อหนังสือภาพถ่าย สูจิบัตร และของที่ระลึกต่าง ๆ ได้ภายในงาน ตลอดจนร่วมฟังกิจกรรมเสวนาของกลุ่มนักอนุรักษ์ธรรมชาติและผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาทิ ดร.อุษารดี ภู่มาลี ดร.เพชร มโนปวิตร และ คุณจรีรัตน์ เพชรโสม เป็นต้น.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]