พังงา 6 ก.ย.-สำนักข่าวไทยตามต่อประเด็นแม่เด็กหญิงวัย 14 ปี ร้องลูกสาวถูกคนในหมู่บ้านและใกล้เคียงล่วงละเมิดทางเพศนับ 40 คน วันนี้มีข้อมูลจากอีกฟาก หลังหญิงสาวอีก 2 คน ในหมู่บ้านที่ถูกพาดพิงถึง ออกมาเปิดเผยข้อมูลอีกด้าน
นอกจากคำบอกเล่าของเด็กหญิงวัย 14 ปี จะระบุว่าตัวเธอถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยคนในหมู่บ้านและใกล้เคียงราว 40 คนแล้ว ยังระบุว่ามีหญิงสาวอีก 2 ราย ที่ถูกกระทำในลักษณะเช่นเดียวกับเธอ รายแรกเป็นหญิงสาววัย 17 ปี อีกรายอายุ 20 ปีเศษ โดยทั้งคู่เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้
หญิงสาววัย 17 ปีผู้นี้ ตกเป็นหนึ่งในบุคคลที่เด็กหญิงผู้เสียหายวัย 14 ปี กล่าวอ้างว่าพบเห็นถูกชายในหมู่บ้านข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ บังคับให้เสพยาเสพติดภายในกระท่อมบริเวณหาดหัวท่าและป่ามะพร้าวท่าโต๊ะหนู เช่นเดียวกับที่เธอถูกกระทำ โดยวันนี้หญิงสาววัย 17 ปีรายนี้ได้ออกมาปฏิเสธพร้อมยืนยันว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะที่ว่านี้ และได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจังหวัดพังงาตรวจร่างกาย เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงไปแล้วเมื่อวานที่ผ่านมา คาดว่าจะทราบผลภายในวันที่ 6 ตุลาคมนี้
ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายวัย 14 ปี พบว่าแม้บ้านของสองครอบครัวนี้จะอยู่ในชุมชนเดียวกัน และปลูกอยู่ห่างกันราว 6 หลังคาเรือน แต่ที่ผ่านมาทั้งคู่เป็นเพียงคนรู้จักที่ไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว และไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน ส่วนกระท่อมที่มีการอ้างถึงว่าถูกใช้เป็นสถานที่ในการข่มขืนเธอและหญิงสาวอีกราย เธอยอมรับว่า เคยไปเที่ยวเล่นที่นั่น พร้อมกับเพื่อนสาวคนอื่นๆ แต่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ในแบบที่เด็กหญิงวัย 14 ปี พาดพิงถึงอย่างแน่นอน
สำนักข่าวไทยยังได้พูดคุยกับหญิงสาว วัย 20 ปีเศษอีกรายที่ถูกพาดพิงถึงผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อสอบถามถึงข้อมูลที่เกิดขึ้น โดยเธอเล่าว่า เคยทำงานอยู่ในหมู่บ้านเกาะแรดระยะหนึ่ง ก่อนจะออกมาเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา โดยเธอยืนยันว่าไม่รู้เห็นกับสิ่งที่เด็กหญิงผู้เสียหายวัย 14 ปี ระบุถึง โดยให้เหตุผลว่า หากเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นกับตัวเธอเองจริง ก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำ ไม่ปล่อยให้เรื่องล่วงเลยมาเป็นเวลานานนับปี
ขณะที่วันนี้ ปกครองจังหวัด พร้อมด้วยนักจิตวิทยา แพทย์ พยาบาล ได้ลงพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะแรด เพื่อพูดคุย ผ่อนคลายความตึงเครียดให้คนในชุมชน พร้อมนำทีมกฎหมายมาให้คำแนะนำกับชาวบ้านเพื่อให้รับทราบขั้นตอนต่างๆ โดยเฉพาะการวางหลักทรัพย์ประกันตัว หากหลังจากนี้ ศาลมีการอนุมัติออกหมายจับ โดยนายสุดี สุวิสัน ผู้ใหญ่บ้านนา หมู่ที่ 3 ต.หล่อยูง ซึ่งมีลูกบ้านจำนวน 2 ใน 40 ราย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในครั้งนี้ด้วย ระบุว่าได้กำชับลูกบ้านทุกคนไม่ให้หนี และให้อยู่ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ต่อสังคม
ข้อมูลที่ขัดแย้งเสมือนหนังคนละม้วน ระหว่างคำบอกเล่าของชาวบ้านผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 40 ราย และฝั่งครอบครัวของเด็กหญิงผู้เสียหายวัย 14 ปี นับเป็นความท้าทายของตำรวจ ในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ปรากฏ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย.-สำนักข่าวไทย