สภาผู้ส่งออกคงเป้าส่งออกปีนี้เติบโตร้อยละ 5 ห่วงเงินบาทแข็งค่า

ลุมพินีทาวเวอร์  4 ก.ย. – สภาผู้ส่งออกคงเป้าส่งออกปีนี้เติบโตร้อยละ 5  ชี้มูลค่าส่งออกต่อเดือนต้องได้ถึง 19,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งออกจึงจะโตร้อยละ 7 ยอมรับเงินบาทแข็งค่าสุดในเอเชียกระทบส่งออกไทย


นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ( สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนกรกฎาคม 2560  มีมูลค่า 18,852 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.5 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาทมีมูลค่า 635,791 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 6.6 ส่งผลให้การส่งออก 7 เดือนแรกมีมูลค่า 132,399 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตร้อยละ 8.2 ขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาท 7 เดือนแรก มีมูลค่า 4.57  ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 5.9 โดยหากพิจารณารายตลาด 5 อันดับแรกที่ขยายตัวสูง คือ จีน อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง เวียดนาม 

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกยังคงคาดการณ์การเติบโตของมูลค่าการส่งออกปีนี้เติบโตร้อยละ 5 ไม่ถึงร้อยละ 7 ตามที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมาย หากจะให้การส่งออกโตสูงถึงร้อยละ 7 มูลค่าการส่งออก 5 เดือนที่เหลือของปีต้องเฉลี่ยเดือนละ 19,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะมูลค่าการส่งออกที่ผ่านมาเฉลี่ยเดือนละ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกของไทย คือการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งสภาผู้ส่งออกขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแลเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ไม่แข็งค่าสูงกว่าคู่ค้าหรือคู่แข่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศสูง โดยเฉพาะเกษตรต้นน้ำ และ กลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอี เนื่องจากตั้งแต่ต้นปี 2560 เงินบาทแข็งค่าขึ้นร้อยละ 7.42 แข็งค่าสุดในเอเชีย หากเทียบกับสกุลภูมิภาค เช่น ริงกิตมาเลเซีย ที่แข็งค่าร้อยละ 5 , รูเปียะ อินโดนีเซีย ทรงตัว และ เปโซ ฟิลิปปินส์ อ่อนค่าร้อยละ 3 ซึ่งไม่เอื้อต่อการเสนอราคาสินค้าส่งออกในช่วงไตรมาส 4 ถึงต้นปีหน้า และความผันผวนของเงินบาท ทำให้รอบการรับออเดอร์สั้นลงเหลือ 3 เดือน จากเดิม 6 เดือน ถึง 1 ปี และทำให้รายได้จากการส่งออกในรูปเงินบาท ลดลงไปร้อยละ 2 ซึ่งหากผู้ส่งออกที่มีมาร์จิ้นเพียงร้อยละ 3 ก็เกือบจะประสบภาวะขาดทุนแล้ว

ส่วนสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธครั้งที่ 6 ทำให้สหรัฐ และเกาหลีเหนือ ตึงเครียดมากขึ้น ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องว่าจะกระทบการส่งออกหรือไม่ .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว