กรุงเทพฯ
3 ก.ย.-สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เตรียมลงพื้นที่สำรวจการเสียภาษีของประชาชน
เพื่อนำข้อมูลเสนอ กมธ.เศรษฐกิจ หาข้อสรุป เงื่อนไขภาษีที่ดินฯ ตามกฎหมายใหม่ ที่จะบังคับใช้ในปี 2562
นายกฤษฎา
จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า หลังจาก ครม.ได้เห็นชอบร่าง
พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. แต่การหารือในระดับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ
(สนช.)ยังถกเถียงเกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษี จึงมอบหมายให้ สศค.ลงพื้นที่ทั้ง
กทม.และต่างจังหวัด เพื่อสำรวจการเสียภาษีของประชาชนในปัจจุบัน
ด้วยการนำมาคำนวณผ่านโมเดลใหม่ทั้งหมด ให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของชาวบ้าน
ตามหลักการณ์แล้วไม่ต้องการเพิ่มภาระให้กับประชาชนสูงมากนัก
โดยในชั้นกรรมาธิการจึงต้องการปรับระดับอัตราภาษีที่ดินฯมีจำนวนขั้นบันไดถี่มากขึ้นอัตราจึงลดลง
หวังขยายฐานภาษีกว้างขึ้นแต่ไม่เพิ่มภาระกับประชาชนมากเกินไป
รองรับกฎหมายบังคับใช้ในช่วงเดือนเมษายนปี 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ขณะนี้ กรมธนารักษ์เร่งรัดประเมินที่ดินรายแปลงทั่วประเทศ จากปัจจุบันสำรวจได้แล้ว
18.6 ล้านแปลง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของที่ดินทั้งหมด 32 ล้านแปลงทั่วประเทศ คาดว่าส้ินปี 60 จะดำเนินการสำรวจได้แล้วเสร็จทั้งหมด
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจฯ
สนช.อยู่ระหว่างหารรือเกี่ยวกับออกพระราชกฤษฎีกาจัดเก็บจริงให้ช่วงอัตราภาษีแคบลง เพื่อขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้น
หลังจากมีข้อเสนอให้กำหนดอัตรายกเว้นการจัดเก็บภาษีที่ดินและส่ิงปลูกสร้างปรับจากราคาต่ำกว่าราคา
50 ล้านบาท เหลือ 20-30 ล้านบาท ขณะนี้กรมธนารักษ์
จึงทะยอยลงพื้นที่รับฟังความเห็นจากประชาชน และส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมกับ
มหาดไทย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาหอการค้าไทยฯ สภาอุตสาหกรรมฯ
เพื่อร่วมกันจัดเตรียมระบบจัดเก็บภาษี ตาม
พ.ร.บ.ที่ดินและส่ิงปลูกสร้าง เมื่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจฯ สนช.สรุปร่วมกันแล้ว
คาดว่าร่างกฎหมายกำหนดอัตราจัดเก็บภาษีจะผ่านสภา สนช.ได้ภายในส้ินปี 60
กำหนดเดิมร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก
ครม.ได้กำหนดอัตราการจัดเก็บภาษี ประกอบด้วย
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ในการประกอบเกษตรกรรม
หรือที่ใช้ในการประกอบเกษตรกรรมและที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่เกินร้อยละ 0.05 ของฐานภาษี
โดยมีพื้นที่ที่ใช้ประกอบเกษตรกรรมไม่น้อยกว่าสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด ที่ดินหรือสิ่งปลูสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
หรือที่ใช้ในการประกอบเกษตรกรรมและที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย
โดยมีพื้นที่ที่ใช้ประกอบการเกษตรกรรมน้อยกว่าสามในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด
ไม่เกินร้อยละ 0.01 ของฐานภาษี
กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณการลดหย่อนภาษี
โดยเกณฑ์ขนาดพื้นที่ไม่เกิน 50
ตารางวาสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และไม่เกิน50 ตารางเมตรสำหรับห้องชุด
และเกณฑ์ฐานภาษีไม่เกิน 1
ล้านบาทสำหรับฐานภาษีที่คำนวณได้รวมกันของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
หรือสิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุด
ในส่วนของที่ดินรกร้างว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพกำหนดให้เก็บภาษีในอัตราร้อยละ
2 ปรับการเก็บภาษีขึ้นได้ครั้งละร้อยละ 0.5 หากไม่มีการใช้ประโยชน์ ผ่านการประเมินทุก
3 ปี.-สำนักข่าวไทย
