องค์กรสิทธิมนุษยชน เสนอรัฐเร่งรัดร่าง พ.ร.บ.บุคคลสูญหายฯ

พญาไท 30 ส.ค.- 6 องค์กรสิทธิมนุษยชน ยื่นเเถลงการณ์ถึงรัฐบาลในวันผู้สูญหายสากล เร่งรัดร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เเละตามคดีสอบสวนการหายตัวไปของนักต่อสู้สิทธิไทยกว่า 82 คน ด้านวงเสวนาย้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าใจการทำคดี ญาติหรือเเพทย์สถาบันนิติเวช ต้องหาหลักฐานป้อนเอง


นางซินเทียร์ เวลิโค ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสห ประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เป็นประธานการจัดงานเสวนา “วันผู้สูญหายสากล : นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกับความยุติธรรมที่หายไป” ที่มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ร่วมกับสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนและแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลจัดขึ้น  เนื่องในวันผู้สูญหายสากล 30 สิงหาคมของทุกปี เพื่อระลึกถึงนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่หายไป และเน้นย้ำความสำคัญและความจำเป็นในการกำหนดให้การบังคับให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดอาญา เพราะไทยยังไม่ได้กำหนดให้การบังคับให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดอาญา จึงทำให้นักต่อสู้ในไทยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอย่างน้อย 82 คน 


ในงานเสวนามีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมเสวนาจำนวนมาก อาทิ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ปรึกษาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ,นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติ ,นางปิติการณ์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิเเละเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม, นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนเเห่งชาติเเละตัวเเทนครอบครัวผู้สูญหาย


นางอรนุช ผลภิญโญ ตัวเเทนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน กล่าวว่า พบปัญหาเเละความท้าทายในการสืบสวนสอบสวนกรณีของพ่อเด่น คำเเหล้ เเกนนำที่ลุกขึ้นเรียกร้องสิทธิเรื่องป่าไม้เเทนชาวบ้านในชุมชน หลังได้เรียกร้องสิทธิกับเจ้าหน้าที่รัฐไม่นานกลับหายตัวไป เเละจนถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าหายไปไหน เเม้ชาวบ้านจะพยายามไปเเจ้งความ ตอนเเรกเจ้าหน้าที่ไม่รับ กระทั่งรับเเล้วก็ไม่มีการติดตามต่อเนื่อง ชาวบ้านเองต้องหาข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ชาวบ้านที่เหลือก็อยู่ด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าเรียกร้องสิทธิ จึงอยากให้รัฐควรมีเเนวทางในการติดตามคนที่สูญหายหรือถูกบังคับให้สูญหายอย่างชัดเจนด้วย

ด้านนายคิงสลีย์ เเอ๊บบอต ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศอาวุโส กล่าวว่า  เจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่เเละอำนาจสอบสวนหาเหยื่อผู้เสียหาย โดยต้องระบุให้ได้ว่าเหยื่อนั้นหายไปเอง หรือบังคับให้ถูกสูญหาย รวมถึงการเก็บพยานหลักฐานเเละการสืบค้นสืบสวนหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เเละจะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้

ขณะที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ที่ปรึกษาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า การทำงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ที่ผ่านมา ทั้งปัญหาโรฮิงญา การ ค้ามนุษย์ กลุ่มคนเร่ร่อน,กลุ่มต่างชาติหรือกลุ่มอพยพ รวมถึงคดีฆาตกรรมซับซ้อน ย้ำว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวน ไม่มีความเข้าใจ หรือทำงานอย่างเต็มรูปแบบในการพิสูจน์หาตัวบุคคลนิรนาม โดยเฉพาะคดีเจนจิรา เป็นกรณีศึกษาที่ตนเเละญาติดำเนินการหาหลักฐานข้อมูลเองเกือบทั้งหมด ทั้งพนักงานสืบสวนมักใช้การรวบรวมข้อมูลมากกว่าใช้นิติวิทยาศาสตร์ อย่างกรณีพ่อเด่น , รัฐกำหนดหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายเดียวที่หน้าที่ตรวจพิสูจน์ ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ทำให้สูญหายหรือทำให้เป็นบุคคลนิรนามเอง เเต่ก็เป็นคนทำสำนวนเอง จึงไม่มีทางเเก้ปัญหาได้ ตนพยายามต่อสู้เเละผลักดันระเบียบหรือออกกฎหมายมาตั้งเเต่ปี 2541 จนปี 2558 มีการออกระเบียบของสำนักนายกรัฐมนตรี เเต่ฝ่ายบริหารกลับไม่ขับเคลื่อนนโยบายกรือกฎหมาย ยังขาดการทำงานร่วมกันเเละเเบ่งปันข้อมูลพื้นฐานที่เเต่ละหน่วยงานมี

ส่วนนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนเเก่งชาติ กล่าวว่า ชีวิตนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนในสายตาของสังคมเต็มไปด้วยอคติ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยที่ไม่สมบูรณ์  เเนะหน่วยงานรัฐต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่เเละรัฐบาลต้องออกกฎหมายรองรับ ดูเเลประชาชนอย่างเต็มที่

ภายในงาน 6 องค์กรสิทธิมนุษยชนอ่านเเถลงการณ์เเละร่วมส่งจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อแสดงความกังวลต่อความล่าช้าในการผ่านร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันมิให้มีการกระทำการทรมาน การปฏิบัติที่โหดร้าย เพื่อเร่งรัดให้มีการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายโดยเร็ว ตลอดจนปัญหาในด้านการสืบสวนสอบสวนที่ไม่มีความคืบหน้าอย่างชัดเจนในกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ามีผู้ถูกบังคับให้สูญหาย อาทิ นายสมชาย นีละไพจติร และนายพอละจี “บิลลี่” รักจงเจริญ รวมถึงกรณีอื่นๆอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นกลาง และเป็นอิสระ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฏหมายอย่างเป็นธรรม

สำหรับปัญหาการบังคับให้บุคคลสูญหายในไทยยังพบต่อเนื่อง โดยเฉพาะแกนนำชาวบ้าน นักเคลื่อนไหว นักปกป้องสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้คณะทำงานของสหประชาชาติว่าด้วยการบังคับให้บุคคลสูญหายได้บันทึกเรื่องร้องเรียนกรณีในไทยไว้ทั้งหมด 82 กรณี โดยทั้งหมดนี้ยังไม่มีการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบและไม่มีการนำตัวคนผิดมารับโทษแต่อย่างใด ซึ่งในไทยไม่มีกฎหมายโดยตรงมาบังคับใช้ แม้เคยลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับและกระทรวงยุติธรรมร่วมกับตัวแทนภาครัฐได้เสนอรัฐบาลเพื่อให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับนี้ พร้อมทั้งได้จัดทำ

“ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ…”เพื่อให้กฎหมายในประเทศเป็นไปตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2559 ครม.มีมติเห็นชอบและให้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่วันที่ 21 ก.พ.2560คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กลับมีมติให้ส่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวคืนให้ ครม. และกระทรวงยุติธรรม โดยไม่ปรากฎเหตุผลที่ชัดเจนของการส่งคืนร่างกฎหมายดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้