12 ส.ค.- “หมอบี” ยังให้การปฏิเสธเรื่องโกงเงินบริจาค ยืนยันส่งมอบเงินทุกบาทให้วัดพระบาทนำพุ ขณะตำรวจพบเส้นทางการเงินบางส่วนหายไปจริง เร่งพิสูจน์ทราบ หากชี้แจงไม่ได้อาจเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ให้สัมภาษณ์ หลังเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม นานกว่า 6 ชั่วโมง เปิดเผยว่าตัวเองไม่มีเจตนาฉ้อโกงเงินบริจาค และไม่รู้เห็นเกี่ยวกับเงิน 5.4 ล้านบาทที่หายไป ยื่นยันนำเงินบริจาคส่งมอบให้กับหลวงพ่ออลงกต ทุกบาททุกสตางค์ ส่วนการถือครองรถยนต์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของวัด นายเสกสันน์ บอกให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว
พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยว่าการรวบรวมพยานหลักฐานในขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก หลักฐานบางส่วนพบว่า นายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิด ฐานฉ้อโกง แต่ยังต้องพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงก่อนว่าเงินที่หายไปเอาไปใช้ในส่วนไหน ซึ่งนายเสกสันน์ อ้างว่าเอาไปใช้ในโครงการต่าง ๆ ของวัด ทั้งโครงการทุนนักเรียนนอก และโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ ส่วนรถยนต์หรู คำให้การนายเสกสันน์ ยอมรับว่าเป็นทรัพย์สินของทางวัดจริง เตรียมส่งมอบคืนให้กับวัด แต่ยังคงต้องตรวจสอบที่มาของทรัพย์สิน เนื่องจากชื่อผู้ครอบครองรถยนต์ดังกล่าวเป็นชื่อของเครือญาตินายเสกสันน์
ความคืบหน้าการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง พันตำรวจเอก เอนก เปิดเผยว่าสอบปากคำไปแล้วกว่า 20 คน ซึ่งเป็นพยานทั้งฝั่งนายเสกสันน์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ส่วนหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ให้การเบื้องต้น พร้อมขอดูหลักฐานต่าง ๆ โดยพบว่ามีบางธุรกรรมที่หลวงพ่อ เป็นผู้ลงรายมือชื่อด้วยตัวเอง แต่บางส่วนยังขาดหายไป จำเป็นต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีที่พบว่า ที่ดินของวัด จำนวน 2,326 ไร่ มีชื่อบุคคลและนิติบุคคลของวัด เข้ามาถือครองนั้น ทางพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะประสานให้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ตรวจสอบเรื่องนี้แทน เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในภาครัฐ ซึ่ง พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่าทราบเรื่องทั้งหมดแล้ว แต่ยังต้องหารือร่วมกับพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปราม แลกเปลี่ยนข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้อง -สำนักข่าวไทย