
ย้ำจุดยืนปศุสัตว์ไทยไร้สารเร่งเนื้อแดง
กรุงเทพฯ 12 ส.ค. – “อธิบดีกรมปศุสัตว์” เผยไทยห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงทุกขั้นตอนการผลิต ชี้อันตรายต่อผู้บริโภค กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คำนึงสุขภาพประชาชนเป็นหลัก นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเตรียมเปิดทางให้นำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างความกังวลในสังคมเกี่ยวกับการปนเปื้อนของสารเร่งเนื้อแดง (เบต้าอะโกนิสต์) ซึ่งเป็นสารต้องห้ามตามกฎหมายไทย โดยยืนยันว่า กรมปศุสัตว์ยังคงยึดมั่นในจุดยืน “ไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดง” ตลอดห่วงโซ่การผลิต ทั้งในประเทศและในสินค้าที่นำเข้า ขณะนี้กรมปศุสัตว์ยังไม่ได้รับแจ้งรายละเอียดหรือแผนดำเนินการอย่างเป็นทางการใดๆ เกี่ยวกับการเปิดนำเข้าหมูจากสหรัฐฯ แต่กรมปศุสัตว์มีจุดยืนที่ชัดเจนมาโดยตลอดคือ ห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดงในทุกขั้นตอนของการผลิต และได้สร้างการรับรู้ในกลุ่มเกษตรกรให้ตระหนักถึงอันตรายของสารดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมากรมได้ดำเนินมาตรการเชิงรุกในการเฝ้าระวังและตรวจสอบการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดงในโรงฆ่าสัตว์ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็น “ประเทศปลอดสารเร่งเนื้อแดง” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดส่งออกสำคัญ เช่น สหภาพยุโรป จีน รัสเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งต่างก็มีข้อกำหนดชัดเจนในการห้ามใช้หรือห้ามนำเข้าสินค้าปศุสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดง เนื่องจากกังวลต่อผลกระทบทางสุขภาพ สารเร่งเนื้อแดงถือเป็นสารต้องห้ามในไทย เพราะหากสะสมในร่างกายจะมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอื่นๆ ดังนั้นกรมปศุสัตว์จึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้บริโภคมาโดยตลอด เนื่องจากคำนึงถึงสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก เพราะคงไม่มีใครต้องการให้คนไทยบริโภคอาหารที่มีมาตรฐานต่ำลง อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากมีความชัดเจนหรือความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณานำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ ตนจะหารือกับนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเท่าที่ได้หารือเบื้องต้น รัฐมนตรีก็มีจุดยืนไม่ต่างจากกรมปศุสัตว์ในการยึดหลักความปลอดภัยของผู้บริโภคและมาตรฐานการผลิตของไทยเป็นสำคัญ .-512-สำนักข่าวไทย