กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- คุม 2 พม่าทำแผนหลังร่วมกันข่มขืนและฆ่าเพื่อนสาวชาติเดียวกัน ก่อนนำศพโยนทิ้งท่อน้ำย่านประเวศ รับนั่งดื่มเหล้ากับผู้ตายและเสพยาจนเกิดอารมณ์ก่อนลงมือข่มขืน แต่ผู้ตายร้องเสียงดังจึงฆ่าปาดคอ
นายอ่อง ติน วิน และนายจ่วยจี้ ชาวเมียนมา ถูกตำรวจนครบาลประเวศควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณใต้สะพานข้ามคลองวัดกระทุ่มเสือปลา ย่านประเวศ หลังก่อเหตุฆ่าปาดคอนางสาวมอลี ทูน ชาวเมียนมา หมกท่อน้ำทิ้ง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยจุดนี้เป็นจุดที่ผู้ต้องหาสารภาพว่า หลังนั่งดื่มสุรากับผู้ตายจนเริ่มเมา จึงชวนผู้ตายเสพยาบ้า จนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงลงมือข่มขืนแต่ผู้ตายร้องเสียงดัง จึงใช้มีดที่ติดตัวมาแทงหน้าอก 2-3 ครั้ง จากนั้นนายอ่องจึงใช้มีดปาดคอซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต ก่อนจะลากศพโยนทิ้งท่อระบายน้ำ
พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนสามารถติดตามตัวนายอ่องได้จากประเทศพม่า ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนจนพบว่า นายจ่วยจี้เป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วย จึงเข้าจับกุมตัวมาสอบสวน
นายจ่วยจี้ สารภาพว่า รู้จักกับผู้ตายมานานกว่า 3 ปี จะนั่งดื่มสุราด้วยกัน หลังก่อเหตุข่มขืน และฆ่า ได้ให้เงินนายอ่อง 1,500 บาท เพื่อหลบหนีไปประเทศพม่า ส่วนตัวเองได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัว จนมาถูกตำรวจจับได้
ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ข่มขืนกระทำชำเรา และร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ ส่วนการตรวจสอบประวัติพบว่า นายอ่อง เคยถูกดำเนินคดีฆ่าผู้อื่น ที่ประเทศพม่า เมื่ออายุ 16 ปี .-สำนักข่าวไทย