รัฐบาลขอความร่วมมือผู้ประกอบการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

เมืองทองธานี 25 ส.ค.-นายกฯ มอบรางวัล Thailand Labour Management Excellence Award 2017 ระบุรัฐบาลอยากให้ผู้ประกอบการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย พร้อมย้ำให้เกียรติทุกคน หากรักษากติกา เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยืนยันเรื่องนี้เกิดก่อนตนจะเข้ามา พร้อมขอต่อไปนี้ประเทศไทยไม่มีสี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานและมอบรางวัลสถานประกอบกิจการบริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยม 2017 (Thailand Labour Management  Excellence Award 2017) ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จัดโดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูสถานประกอบกิจการที่สามารถบริหารจัดการด้านแรงงานได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สถานประกอบกิจการอื่น ๆ โดยขอพระราชทานถ้วยรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้แก่สถานประกอบกิจการที่มีการบริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยมและธำรงรักษาได้ตามมาตรฐานเป็นระยะเวลานานที่สุด รวม 3 รางวัล นอกจากนี้ ยังมีรางวัลสถานประกอบกิจการดีเด่นระดับประเทศในแต่ละด้าน อีก 618 รางวัล รวมทั้งสิ้น 621 รางวัล

นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการมอบรางวัลสถานประกอบกิจการบริหารจัดการด้านแรงงานยอดเยี่ยม ว่า ขอแสดงความยินดีกับสถานประกอบการที่ได้รับรางวัล ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และอยากฝากให้สถานประกอบการได้เชื่อมโยงการพัฒนากับเอสเอ็มอี สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศที่จะเข้ามาอยู่ในโครงสร้างได้อย่างไร เพื่อเป็นการช่วยรัฐบาลในการสร้างการพัฒนาประเทศ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวัง คือ การพัฒนาทั้ง 6 ภูมิภาคให้มีความเท่าเทียมกัน ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในทุกระดับ


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อยากขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชน หลังจากที่รัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนและแก้ปัญหาต่าง ๆ อีกทั้งผู้ประกอบการต้องมีการปรับตัว อย่ากลัวในเรื่องของภาษีและปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลนี้ได้มีนโยบายที่จะแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการ โดยเน้นการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยยึดหลักตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งผู้ประกอบการก็จะต้องดำเนินการไปพร้อมกับรัฐบาล และขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยรับซื้อวัตถุดิบในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปขายต่อและเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดยไม่กระทบสหกรณ์หรือวิสาหกิจชุมชน อีกทั้งขอให้คำนึงถึงการขยายกิจการร้านค้าเข้าไปในชุมชน สินค้าจะต้องไม่ราคาสูงเกินไป ซึ่งยอมรับว่าจะห้ามการขยายกิจการของผู้ประกอบการไม่ได้ แต่ก็อยากให้คำนึงถึงผู้มีรายได้น้อย และขอให้ผู้ประกอบการช่วยทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน แต่สิ่งที่รัฐบาลทำลงไป ก็เพื่อที่จะต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ต่างประเทศแยกปัญหาการเมืองหรือประชาธิปไตย และเศรษฐกิจออกจากกัน โดยเฉพาะจะต้องมีการร่วมมือทางเศรษฐกิจ เนื่องจากแต่ละประเทศมีปัญหารายได้ไม่เพียงพอ ดังนั้นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ จึงมีต่างประเทศเข้ามาร่วมมือกับรัฐบาลชุดนี้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการที่ตนเข้ามา ไม่ได้เป็นการทำให้เศรษฐกิจตกต่ำลง

ส่วนกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ล่าสุดไม่สามารถระบายน้ำได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพราะไม่มีพื้นที่รองรับการระบายน้ำ เพราะไม่สามารถที่จะสร้างเขื่อน หรือพื้นที่รับน้ำเพิ่มเติมได้ เนื่องจากติดปัญหาที่คนออกมาคัดค้าน


“คงต้องทำระบบระบายน้ำลอยฟ้าหรือใต้ดินเท่านั้น ต่างประเทศสามารถดำเนินโครงการใหญ่ ๆ ได้ แต่กับประเทศไทย ติดปัญหาที่คน ทั้งที่ส่วนตัวมีแนวคิดที่จะขยายเมืองและทำอุโมงค์ลอดจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก แต่ติดที่งบประมาณ ที่เมื่อมีการสอบถามแล้ว มีมูค่า 1 กิโลเมตร ต่อ 3,000 ล้านบาท จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้ช่วยหาเงินมาสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล และขอย้ำว่ารัฐบาลมีแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งสัญญาจะเร่งรัดและทำให้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องการพูดจาของตัวเองว่า บางครั้งตน อาจจะพูดจาคาบลูกคาบดอก ก็เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์ในวันนี้

“ซึ่งวันนี้อารมณ์ดี และให้เกียรติทุกคน จะดูถูกกันไม่ได้ เพราะเป็นมนุษย์ด้วยกัน ถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ก็ขอชมเชยว่าเป็นการยอมรับในกระบวนการยุติธรรมและเข้ามาต่อสู้ และให้ความเป็นธรรม หากรักษากติกา  และ เรื่องนี้เกิดมาก่อน  ผมไม่ได้ทำให้เกิดคดีนี้  ต่อไปนี้เลิกแบ่งแยกสี และต่อไปนี้ต้องมีสีเดียวคือสีธงชาติ จะรังเกียจเลือดหรือสีแดงไม่ได้ เพราะหากขาดเลือดสีแดงก็ตาย เพียงแค่มีคนทำให้สีเสีย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยถึงเงินเดือนประจำตำแหน่ง  75,000 บาท รวมค่าอื่น ๆ อีก เบ็ดเสร็จ ได้เดือนละประมาณ 1000,000 บาท แต่เมื่อเดินทางไปที่ไหน เงินเดือนก็จะหมดลง เพราะใช้เงินไปซื้อสินค้าและสิ่งของที่ประชาชนมอบให้ ซึ่งตนยึดหลักมาตลอดว่าต้องมีการแบ่งปัน มีน้อยก็ให้น้อย และไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน

ส่วนบรรยากาศการรักษาความปลอดภัย เป็นไปด้วยความเข้มงวดและรัดกุม ตำรวจตรวจกระเป๋าผู้เข้าร่วมงานอย่างละเอียด รวมถึงซองเอกสารต่าง ๆ จะต้องถูกเปิดออก เพื่อตรวจสอบข้อความข้างใน ซึ่งแม้กระทั่งหนังสือมติชนสุดสัปดาห์ที่มีรูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีขึ้นปก ซึ่งนักข่าวหนังสือพิมพ์มติชนพกติดตัวมาด้วย เจ้าหน้าที่ยังขอเก็บไว้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบกระทรวงเกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา และโครงการล้งแห่งชาติ […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]

รวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมพวกตามหมายจับคดีรุกป่า

14 ส.ค.- “บิ๊กเต่า” บุกรวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมเมียและพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 กรณีรุกที่ดินนิคมลำโดมน้อย สร้างรีสอร์ต เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าควบคุมตัวนายยุทธพล ศรีสมพงษ์ และนางสาวจิราพร สีบุระ ภรรยา พร้อมพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 ในความผิด ม.157 ซึ่งบัญญัติว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมื่อปี 2564 นายยุทธพล (จอนนี่) และภรรยา ได้ทำการซื้อที่ดินว่างไม่มีเอกสารสิทธิใน ต.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี และก่อสร้างรีสอร์ตโดยไม่ขออนุญาต ซึ่งทางนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง 20% ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดที่ดินฯ แต่ทั้งสองยังคงดำเนินการร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน จัดประชาคมและรับรองเท็จว่าที่ดินไม่มีข้อพิพาท ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน พร้อมแก้ไขเอกสารเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต. ได้รับรองสิ่งปลูกสร้างแม้ทราบว่าไม่ได้รับอนุญาต […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]