โพลพบประชาชนคาดหวังกับ กก.ปฏิรูปประเทศ

กรุงเทพฯ 19 ส.ค.-สวนดุสิตโพล พบประชาชนร้อยละ 66.95 อยากให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศปฏิรูปอย่างจริงจัง มีผลเป็นรูปธรรม ขณะที่ร้อยละ 30.68 คาดหวังมากกับคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ เพราะมีหน้าที่กำหนดทิศทางการพัฒนาบ้านเมือง อยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น ประเทศก้าวหน้า พร้อมฝากคณะกรรมการฯ เน้นปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ โปร่งใส 


ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 คณะ มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ซึ่งแต่ละคณะจะแยกกันทำหน้าที่ในแต่ละด้าน และนำแผนทั้ง 11 ด้านมารวมกันเป็นแผนปฏิรูปของชาติ รวมถึงการออกกฎหมายเพื่อให้กลไกต่าง ๆ เดินไปได้ เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,036 คน ระหว่างวันที่ 15-18 สิงหาคม 2560 ในหัวข้อ “ประชาชนคิดอย่างไร กับการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ”  พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 66.95 อยากให้ปฏิรูปอย่างจริงจัง มีผลงานเป็นรูปธรรม อันดับ 2 ร้อยละ 56.10 มีความสำคัญต่อการพัฒนาและทิศทางการปฏิรูปประเทศ อันดับ 3 ร้อยละ 51.69 เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง มีความรู้ความสามารถ น่าจะทำงานได้ดี อันดับ 4 ร้อยละ 45.25 เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเป็นประเด็นทางการเมือง และอันดับ 5 ร้อยละ 38.24 ส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยทำงานให้ คสช.ไม่ค่อยมีคนรุ่นใหม่

เมื่อถามถึงความคาดหวังต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 คณะ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 30.68 คาดหวังมาก เพราะมีหน้าที่ในการปฏิรูปประเทศ กำหนดทิศทางการพัฒนาบ้านเมือง อยากเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น ประเทศก้าวหน้า ฯลฯ อันดับ 2 ร้อยละ 29.94 ไม่ค่อยคาดหวัง เพราะที่ผ่านมายังไม่เห็นผลงานการปฏิรูปที่ชัดเจน ไม่ค่อยมีคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะมีใครเข้ามาทำงานก็เหมือนเดิม ฯลฯ อันดับ 3 ร้อยละ 24.40 คาดหวังค่อนข้างมาก เพราะดูจากรายชื่อแล้วเป็นผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ อยากให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ฯลฯ อันดับ 4 ร้อยละ 14.98 ไม่คาดหวัง เพราะเป็นปัญหาที่แก้ยาก ฝังรากลึกในสังคมไทย การเมืองมีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง มุ่งแต่อำนาจและผลประโยชน์ ฯลฯ


เมื่อถามถึงความสำคัญของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น 11 คณะ พบว่า ร้อยละ 78.99 ด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ร้อยละ 72.46 ด้านกฎหมาย ร้อยละ 62.56 ด้านการเมือง ร้อยละ 61.11 ด้านกระบวนการยุติธรรม ร้อยละ 52.42 ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ร้อยละ 46.86 ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ร้อยละ 44.44 ด้านสังคม ร้อยละ 43 ด้านสาธารณสุข ร้อยละ 40.05 ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 38.45 ด้านสื่อสารมวลชน และร้อยละ 36.52 ด้านพลังงาน

เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนอยากฝากคณะกรรมการปฏิรูปประเทศทั้ง 11 คณะ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 64.65 เน้นปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี อันดับ 2 ร้อยละ 62.11 อยากเห็นผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจน ปฏิรูปได้สำเร็จ อันดับ 3 ร้อยละ 55.50 ปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ โปร่งใส อันดับ 4 ร้อยละ 47.08 รับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นสำคัญ และอันดับ 5 ร้อยละ 46.34 สร้างความยุติธรรมและเท่าเทียมในสังคม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง