กรุงเทพ ฯ 18 ส.ค.- ตำรวจภูธรภาค 5 จับยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด และเคตามีนกว่า 200 กิโลกรัมมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท เชื่อ กลุ่มผู้ค้าชายแดน เริ่มทดลองตลาด นำเข้าสารตั้งต้น เพื่อกระจายพื้นที่ชั้นในของไทย
พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้ากว่า 4 ล้าน 1 แสน 1 หมื่นเม็ด และเคตามีน ประมาณ 200 กิโลกรัม ซึ่งตำรวจภูธรภาค 5 ยึดได้ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านป่ายาง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมจับกุม นายศุภชัย รุ่งเรือง และ นายกิตติพงษ์ พันธ์ชมพู ซึ่งอยู่ในเครือข่ายของ “โจบ้านไร่” เครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในจังหวัดลำปาง หลังสืบทราบว่า อาคารดังกล่าว อาจใช้เป็นที่ซุกซ่อนยาเสพติด จึงสนธิกำลังร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 และ ป.ป.ส. เข้าตรวจค้น พบรถยนต์กระบะจอดอยู่ เมื่อตรวจสอบพบมียาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ และพบผู้ต้องหาทั้งสองคน
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เคยลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ปริมาณยาไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเม็ด ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยนำยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อว่า เป็นของกลุ่มว้า ก่อนนำมาซุกซ่อนในอาคารดังกล่าว เพื่อรอลำเลียงส่งต่อพื้นที่ชั้นใน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า เริ่มพบการลักลอบนำเข้าเคตามีน ตามแนวชายแดนจำนวนมาก จากอดีตที่เคตามีนจะลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะ จากจีนและอินเดีย ครั้งละจำนวนน้อย ผ่านทางท่าอากาศยานต่าง ๆ ซึ่งการพบเคตามีนจำนวนมากในครั้งนี้ เชื่อว่า อาจเป็นการทดลองตลาดของกลุ่มผู้ค้าในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาจำหน่ายในพื้นที่ตอนในของไทย โดยเฉพาะ ในสถานบันเทิงต่าง ๆ ซึ่งฝ่ายความมั่นคง จะเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับยาบ้าล๊อตนี้ เตรียมนำส่งไปยังประเทศมาเลเซียและอินโดนิเซีย ส่วนเคตามีนเตรียมส่งไปยังประเทศออสเตรเลียและอเมริกา ทำให้มีมูลค่าพุ่งขึ้นถึง 5 พัน 4 ร้อย 66 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาในไทยเป็น 10 เท่าตัว .-สำนักข่าวไทย