กทม. 9 ธ.ค.-“อนุทิน” พร้อมตอบกระทู้ “โรม” ปมบริษัทเอกชนไทย เอี่ยวขายไฟฟ้ากลุ่มผลิตยาเสพติด ในพื้นที่กลุ่มว้า แจงศาลชั้นต้น เคยยกฟ้องแล้ว เหตุข้อมูลฟังไม่ขึ้น ชี้ กฟภ.ขายไฟฟ้าให้ประเทศใกล้เคียง เป็นไปตามกฎหมาย-มีฝ่ายความมั่นคงเห็นชอบ ลั่นหากพบนำไปทำสิ่งผิดกฎหมาย ตัดไฟฟ้าได้ ขณะที่ “ภูมิธรรม” มองเป็นเรื่องดี “ว้าแดง” ออกแถลงการณ์ ยันไม่มีความตึงเครียดชายแดน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เตรียมตั้งกระทู้ถามนายอนุทิน กรณีพบบริษัทเอกชนของไทยส่งไฟฟ้าขายให้กับกลุ่มผลิตยาเสพติด ที่อยู่ในพื้นที่กองกำลังว้า ว่า วันนี้(9 ธ.ค.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. จะมีการแถลงชี้แจง ซึ่งข้อเท็จจริง ไม่ได้เป็นไปตามที่นายรังสิมันต์ ได้พูดไว้ เพราะทุกอย่างทำตามกฎหมาย และมีผู้ซื้อผู้ขายอย่างชัดเจน รวมถึงไม่มีการสนับสนุนส่งเสริมใด ๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังเคยมีการฟ้องร้องบริษัทที่รับซื้อสัมปทานไฟฟ้า กรณีได้มีการไปสนับสนุนการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลอาญาชั้นต้น ได้พิพากษาแล้วว่า ข้อมูลฟังไม่ขึ้น และศาลชั้นต้นยกฟ้อง โดยอัยการกำลังดำเนินการอุทธรณ์อยู่เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย โดยการที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง แสดงให้เห็นว่า ยังไม่มีใครทำอะไรผิด อีกทั้งตนยังได้เชิญผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาพูดคุยเมื่อเช้านี้ (9 ธ.ค.67) ซึ่งผู้ว่าฯ กฟภ. ก็ได้ชี้แจงด้วยความมั่นใจ
ส่วนวันที่ 12 ธันวาคมนี้ หากนายรังสิมันต์ ตั้งกระทู้ถามพร้อมเข้าไปชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าตั้งกระทู้ถามก็ต้องตอบอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง หรือหลบหลีก
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าโรงไฟฟ้า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด และกลุ่มที่มีอิทธิพลบริเวณชายแดน เพราะกลุ่มผลิตยาเสพติดที่มีอิทธิพลมักจะอยู่ในเขตพื้นที่กลุ่มว้า นั้น นายอนุทิน ระบุว่า “เขาใหญ่ เขามีอิทธิพล ก็มีอิทธิพลอยู่ในประเทศของเขา เราไปทำอะไรไม่ได้ แต่เขาไม่มีอิทธิพล และไม่มีปัญญาที่จะมาทำอะไรกดดันประเทศไทยได้ หรือจะทำให้เราจำเป็นต้องไปสนับสนุนเรื่องการผลิตยาเสพติดอย่างแน่นอน”
นายอนุทิน ย้ำว่า เรื่องการขายกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีกฎหมายเรื่องมนุษยธรรมรองรับ ดังนั้นการจะขายไฟฟ้า ให้กับบริษัทใด หรือองค์กรใด ต้องมีการรับรองจากประเทศเพื่อนบ้าน, สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่ง กฟภ. มีหน้าที่ขายตามความเห็นชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง หากมีปัญหาใดเราก็สามารถพิสูจน์ได้ และสามารถตัดกระแสไฟฟ้าได้ พร้อมยกตัวอย่างว่า เคยมีกรณีที่รัฐบาลเมียนมา ประสานผ่านเอกอัครราชทูต ทำเรื่องให้รัฐบาลไทยตัดการส่งไฟฟ้าไปยังหมู่บ้านหนึ่ง ที่นำไปใช้ดำเนินการในสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล และการที่นายรังสิมันต์ ได้ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวก็ดี ซึ่งหากถามมาตนก็พร้อมตอบ
อย่างไรก็ตามเวลา 16.00 น. วันนี้ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะแถลงข่าวเรื่อง “การจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศใกล้เคียงที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ” ณ ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ สำนักงานใหญ่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวสั้น ๆ หลังกลุ่มว้า ออกแถลงการณ์ยืนยันไม่มีความตึงเครียดกับกองทัพไทย เป็นเพียงข่าวลือนั้น โดยระบุว่า เป็นไปตามแถลงการณ์ ซึ่งการที่เขาออกมาแถลง ก็ถือว่าดีแล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย