แท็กซี่ใจงามเก็บเงินคืนนักธุรกิจเวียดนาม


กทม. 26 ต.ค.- โชเฟอร์แท็กซี่หนุ่มสุรินทร์ คนดี น้ำใจงาม เก็บเงิน 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ คืนนักธุรกิจสาวเวียดนาม ได้สินน้ำใจตอบแทน 35,000 บาท

26-10-2559 23-42-09 26-10-2559 23-41-50


วันที่ 26 ต.ค.2559 ที่สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายชาติ จันทา อายุ 44 ปี โชเฟอร์ แท็กซี่ สีชมพู ทะเบียน ทร 3259 กรุงเทพมหานคร “แท็กซี่ คนดี น้ำใจงาม” ส่งมอบคืนกระเป๋าสะพายแบบสตรี สีน้ำตาล พร้อมเงินสด 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ โทรศัพท์มือถือซัมซุง และไอโฟน ให้กับ VU THI KIM PHUONG อายุ 31 ปี นักธุรกิจ สัญชาติเวียดนาม หลังจากลืมกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินมีค่าไว้บนรถ ขณะใช้บริการเมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา จากย่านประตูน้ำ ไปตลาดสี่มุมเมือง มีนางสาวจิตต์ผ่องใส ศรีวังพล ผู้บริหารสถานีฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน ด้านนักธุรกิจชาวเวียดนามมอบสินน้ำใจให้โชเฟอร์แท็กซี่ 35,000 บาท

นายชาติ จันทา อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 25 ต.ค.59 รับผู้โดยสาร เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน จากบริเวณปากซอยเพชรบุรี 15 ถนนเพชรบุรี ไปส่งตลาดสี่มุมเมือง ระหว่างทางได้พูดคุยกับผู้โดยสารที่เป็นผู้ชาย ทราบว่า 2 คน ที่นั่งอยู่เบาะผู้โดยสารตอนหลัง เป็นนักธุรกิจชาวเวียดนาม กำลังหาซื้อน้ำตาลทรายกลับไปขายที่ประเทศ เพราะปัจจุบันประเทศเวียดนามขาดแคลนน้ำตาลทราย เมื่อขับรถมาถึงตลาดสี่มุมเมือง ผู้โดยสารทั้ง 3 คนลงจากรถ ตนเองได้ขับรถวนกลับเข้าถนนวิภาวดีรังสิต รับผู้โดยสาร หน้าสนามบินดอนเมือง ไปส่งที่ สวนผัก 32 จากนั้นมีผู้โดยสารต่อเนื่อง รับจากซอยสวนผัก 32 มากระทรวงมหาดไทย และรับผู้โดยสาร จากกระทรวงมหาดไทย ไปส่งที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต หลังจากส่งผู้โดยสาร ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตแล้ว มีกลุ่มนักศึกษาหญิง 4 คน ขึ้นรถไปที่ถนนพระอาทิตย์ ระหว่างขับรถอยู่ นักศึกษาหญิง ที่นั่งอยู่เบาะหลัง ถามตนเองว่า กระเป๋าของใคร พร้อมกับส่งกระเป๋าให้ดู ตอนนั้นยังนึกไม่ออกว่า เป็นกระเป๋าของผู้โดยสารคนไหนลืมไว้

ขณะนั้น นักศึกษาทั้ง 4 คน ยังอยู่บนรถ ตนเองแนะนำให้นักศึกษาโทรศัพท์เข้ามายังหมายเลข 1644 “โทรฟรี” สถานีวิทยุ สวพ.FM 91 เพื่อประกาศตามหาเจ้าของ และตนเองจะเป็นผู้นำกระเป๋า พร้อมทรัพย์สินมาฝากไว้ที่สถานีฯ เมื่อทำการตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายสีน้ำตาล พบเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน พาสปอร์ต ของนักธุรกิจหญิงชาวเวียดนาม ระบุชื่อ VU THI KIM PHUONG โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง พร้อมเงินสด ธนบัตรสกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ฉบับละ 100 และ 50 ดอลลาร์สหรัฐ รวมจำนวน 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาทไทยประมาณ 143,000 บาท ประกอบกับไม่รู้จะไปส่งคืนทรัพย์สินให้เจ้าของได้ที่ไหน เพราะผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติ ตลอดเวลาที่ขับรถมีเพียงรายเดียว ที่เรียกใช้บริการริมถนนเพชรบุรี จึงตัดสินใจนำกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินมาฝากไว้ที่สถานีวิทยุ สวพ.FM 91 เพื่อติดตามหาเจ้าของต่อไป


นางสาวจิตต์ผ่องใส ศรีวังพล ผู้จัดการสถานีวิทยุ สวพ.FM 91 กล่าวว่า ภายหลังจากรับกระเป๋าพร้อมทรัพย์สินมีค่า ที่นายชาติ จันทา นำมาฝากแล้ว ทีมงานได้โทรศัพท์ไปยังโรงแรมหลายแห่ง ภายในซอยเพชรบุรี 15 เพื่อขอความร่วมมือตรวจเช็กรายชื่อลูกค้า ที่เข้าพักในโรงแรม กระทั่งพบว่า VU THI KIM PHUONG นักธุรกิจชาวเวียดนาม พักอาศัยอยู่ที่โรงแรม เจ ทู เอส เดินทางเข้าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับ พนักงานสอบสวน สภ.คูคต เมื่อเวลา 15.30 น. ว่า ใช้บริการรถแท็กซี่ สีชมพู จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ขึ้นรถจาก ประตูน้ำ ไปลงรถที่ ร้านมนัสชนก เทรดดิ้ง ตลาดสี่มุมเมือง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และได้ลืมกระเป๋า ภายในประกอบด้วยทรัพย์สิน หนังสือเดินทาง พาสปอร์ต เงินสด 4,100 ดอลลาร์สหรัฐ โทรศัพท์ ซุมซุง เอส 7 จำนวน 1 เครื่อง และไอโฟน 6 จำนวน 1 เครื่อง จึงได้ประสานงาน VU THI KIM PHUONG ผ่านล่ามแปลพานักธุรกิจชาวเวียดนาม เข้ามารับทรัพย์สินมีค่าคืน

“ขับรถแท็กซี่ มากว่า 20 ปี ได้ยินข่าวคนลืมของบ่อยมาก ปัจจุบันก็มีอยู่บ้างแต่ไม่บ่อย เงินทั้งหมดไม่ใช่ ของเรา อาชีพแท็กซี่ คือ การให้บริการ เมื่อผู้โดยสารลืมทรัพย์สิน ของมีค่าไว้บนรถ เราเก็บได้ก็ต้องส่งคืนให้เจ้าของ” นายชาติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเล็ก​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “มทภ.2” ยึดรอบคอบ

11 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยันรับฟังข้อเรียกร้องต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” แต่ต้องพิจารณารอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสเติบโตก้าวหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวเรียกร้องให้มีการต่ออายุราชการทหาร ของ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2  โดยยืนยันว่า รับฟังกระแสเรียกร้องดังกล่าว ที่มีมาจากคนไทยที่รักประเทศ และห่วงใยในสถานการณ์ หลังการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชาเพิ่งผ่านไป ซึ่งในฐานะผู้บังคับบัญชา ยืนยันว่ารับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรี่องนี้ ยืนยันว่าจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญ ต้องพิจารณาภาพรวมขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานระดับรอง ที่จะมีโอกาสก้าวหน้าเติบโตต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาสถานการร์การสู้รบ ทั้งแม่ทัพภาค 2 เอง และผู้บังคับบัญชาระดับรอง ต่างก็ทำภารกิจอย่างเต็มกำลัง และมีความสามารถทั้งหมด นักวิชาการไม่เห็นด้วยปมต่ออายุราชการ “แม่ทัพภาค 2” ผศ. ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต  ได้โพสท์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงประเด็นดังกล่าวว่า เรื่องการขอเสนอการต่ออายุราชการ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ออกไปนั้น ตนไม่เห็นด้วย ขอให้วางใจวางสติให้ดี ว่าเราต้องไม่ตกหลุมกับดักของคนภายในและภายนอก […]