อัยการให้ สตช.ระบุท่ีอยุ่บอสให้ชัดเพื่อสานต่อส่งผู้ร้ายข้ามแดน

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.- อัยการเร่งรัด สตช.ระบุแหล่งที่อยู่ของบอสในเอกสารคำขอผู้ร้ายข้ามแดน ชี้ดำเนินการต่อไม่ได้ หากล่าช้าหวั่นบางข้อหาหมดอายุความ


นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงเรื่องการส่งคำร้องขอตัวผู้ร้ายข้ามเเดน ของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ผู้ต้องหาขับรถชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีตผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ว่า เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมาทางอัยการสำนักงานต่างประเทศได้ส่งหนังสือเร่งรัดไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ระบุแหล่งที่อยู่ ประเทศ ที่นายวิทยาผู้ต้องหาหลบหนี เนื่องจากไม่ได้ระบุมาซึ่งอัยการสำนักงานต่างประเทศไม่สามารถดำเนินการต่อได้  ชี้หากล่าช้าจะทำให้บางข้อหาหมดอายุความ 

แต่ทั้งนี้อัยการได้จัดเตรียมเอกสารขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไว้หมดแล้ว เหลือเพียงระบุที่อยู่เท่านั้น ถ้าหากตำรวจทราบที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งว่าผู้ต้องหาอยู่ประเทศไหน ก็จะประสานกับประเทศนั้นๆ ที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อขอตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ส่วนประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็มีช่องทางอื่นในการส่งตัว


ทั้งนี้ไม่สามารถส่งเอกสารขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปทุกประเทศก่อนได้ เพราะหากไม่ตรงกับเงื่อนไข พยานหลักฐานไม่เพียงพอว่าหลบหนีไปพำนักอยู่ ก็จะถูกประเทศนั้นๆ ปฏิเสธทันที เห็นได้จากคดีของเณรคำทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ระบุที่อยู่ ประเทศพำนักชัดเจนที่สหรัฐอเมริกา จึงประสานขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ 

อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ย้ำถ้าหากล่าช้าไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องได้ทันก่อนวันที่ 3 กันยายน 2560 จะทำให้ข้อหาไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันที หรือชนแล้วหนี มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 5,000-20,000 บาท จะหมดอายุความ แต่ยังเหลือข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งมีอายุความ 15 ปี แต่ขณะนี้ผ่านมาแล้ว 5 ปี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่