เรืองไกร เข้าให้ข้อมูล 90 สนช.ถือหุ้น

สำนักงาน กกต.10 ส.ค.- “เรืองไกร” เข้าให้ข้อมูลกรรมการไต่สวน กรณี 90 สนช.ถือหุ้นเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ  ยกคำวินิจฉัย-คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอ้างอิง


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 90 รายมีการกระทำการเข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามหมวด 9 ของรัฐธรรมนูญ และจะเข้าข่ายเป็นการขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 263 วรรคสอง ประกอบมาตรา 184 (2) และ101 (7) ที่มีนายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ เป็นประธานกรรมการไต่สวน 

นายเรืองไกร กล่าวว่า เป็นการเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมตามคำเชิญ ซึ่งตนได้ยกคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 12-14 /2253 ที่วินิจฉัยเกี่ยวกับการถือหุ้นสัมปทานของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช นางมลิวัลย์ ธัญญสกุลกิจ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีตส.ส. และม.ร.ว.กิตติวัฒนา (ไชยยันต์) ปกมนตรี อดีต ส.ว.ว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำขัดรัฐธรรมนูญ และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2553 กรณีนายมานิต นพอมรบดี ที่ชี้ว่าความเป็นรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ดังนั้นเมื่อนายมานิตพ้นจากการเป็นรมต.ไปก่อนแล้วไม่มีเหตุให้ศาลต้องวินิจฉัย มาเป็นตัวอย่างให้กับคณะกรรมการไต่สวน เพื่อยืนยันว่า สิ่งที่ตนร้องเรียนนั้น กกต.เคยมีคำวินิจฉัยไว้แล้วว่าต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยไว้เช่นกันว่าเป็นความผิด


นายเรืองไกร กล่าวว่า คณะกรรมการไต่สวนได้สอบถามว่าตนได้รับข้อมูลมาจากที่ไหน และมีเหตุโกรธเคืองกับผู้ถูกร้องหรือไม่ ซึ่งยืนยันไปว่าไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองกับสนช.คนใด และที่ร้องก็เพราะนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช.ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อเองว่าเขามีหุ้นสำนักกฎหมาย ซึ่งไม่เข้าลักษณะความผิดต้องห้ามของการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากไม่ใช่หุ้นที่รับสัมปทานจากรัฐ ประกอบกับก็ได้เข้าไปตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินของสนช.ทั้งหมด และพบว่ามีเพียง 90 สนช.ที่เข้าข่าย และได้แจ้งให้คณะกรรมการไต่สวนขอข้อมูลการถือหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งก็จะพบว่าใครมีหุ้นอยู่บ้าง โดยทางตลาดหลักทรัพย์ฯคงไม่อ้างเหตุเป็นข้อมูลของลูกค้าที่เปิดเผยไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้การตรวจสอบในอดีตของกกต. ทางตลาดหลักทรัพย์ก็ให้ข้อมูลทุกครั้งที่กกต.มีหนังสือขอไป

“ที่ประธานพรเพชร (วิชิตชลชัย ประธานสนช.) ยกรัฐธรรมนูญ 50 ขึ้นมาอ้างว่าถือครองหุ้นมาก่อนเข้าดำรงตำแหน่งไม่ผิด พูดอย่างนี้ไม่ได้ เพราะถ้ายึดหลักนี้ต่อไปใครที่จะมาเป็นส.ว. เป็นรมต. ก็จะไปถือหุ้นก่อนเพื่อที่เมื่อเป็นส.ว.และรมต.แล้วจะไม่ได้ไม่ถือว่าผิด” นายเรืองไกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย        


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล