กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – กรมการขนส่งทางบกร่วมกับตำรวจชี้แจงกรณีเตรียมบังคับใช้กฎหมายกับรถป้ายแดง มั่นใจเพิ่มรายได้รถจดทะเบียนใหม่มากขึ้น จากปีละ 30,000 ล้านบาท พร้อมเปิดช่องทางให้แจ้ง 1584 กรณีตัวแทนจำหน่ายรถจดทะเบียนล่าช้า
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมฯจะร่วมกับตำรวจบังคับใช้กฎหมาย โดยตั้งแต่ 1 ตุลาคมจนถึงสิ้นปี ผู้ที่ใช้รถป้ายแดงเกินกว่า 60 วัน จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1 หมื่นบาท และตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 จะใช้รถป้ายแดงได้ไม่เกิน 30 วัน ทั้งนี้กรมฯมั่นใจว่า การดำเนินการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ให้ผู้ซื้อรถแล้ว ยังเพิ่มรายได้ให้กับภาครัฐได้ด้วย จากปัจจุบันมีรายได้จากการจดทะเบียนรถใหม่ประมาณปีละ 30,000 ล้านบาท
สำหรับผู้ซื้อรถ หากผู้จำหน่ายรถไม่จดทะเบียนให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ประชาชนสามารถร้องทุกข์ได้ที่ 1584 หรือสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ เพื่อให้ดำเนินการกับตัวแทนรายนั้นๆ ทั้งนี้กระบวนการจดทะเบียนขณะนี้ สามารถทำได้เสร็จภายใน 1 วัน การล่าช้าจึงไม่เกิดจากกระบวนการของราชการแน่นอน
พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ รักษาราชการแทนที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในการบังคับใช้กฎหมาย หลังวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ตำรวจจะใช้ดุลยพินิจ โดยผู้ที่ครอบครองป้ายแดงเกิน 60 วัน ตำรวจที่จับกุมจะใช้ดุลยพินิจว่า ใช้เกิน 60 วันมามากน้อยเพียงใด และเป็นการถูกจับกุมครั้งแรก หรือกระทำผิดซ้ำ หากเป็นการจับกุมครั้งแรก และใช้ป้ายแดงเกินเวลาไม่นาน ก็ปรับได้ตั้งแต่ 1,000 บาท แต่หากเจตนาถือครองนาน ก็สามารถปรับได้ถึง 10,000 บาท – สำนักข่าวไทย