ศาลรัฐธรรมนูญ 2 ส.ค.- มติเสียงข้างมากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง กกต.ชี้ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ย้ำมีแค่ 2 ช่องทาง ส่งผ่าน สนช.-นายกฯ เท่านั้น
เมื่อเวลา 15.50 น.ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ยื่นให้พิจารณาวินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 27 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก ไม่รับคำร้องของ กกต.ไว้พิจารณา เนื่องจากการส่งคำร้องของ กกต.ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเพราะขณะนี้ยังเป็นเพียงร่างกฎหมาย จึงเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210
วรรคหนึ่ง (1) มาตรา 232 ประกอบมาตรา 148 และมาตรา 263 ได้กำหนดให้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เสนอความเห็นต่อประธาน สนช.หรือให้นายกรัฐมนตรี ส่งความเห็นมายังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากกฎหมายประกาศใช้แล้วตามความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 หน่วยงานหรือองค์กรที่เห็นว่าอำนาจหน้าที่ของตนเองมีปัญหา ก็สามารถใช้สิทธิยื่นตรงได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210(2)
ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.บางคน จะใช้สิทธิส่วนตัวในการยื่นคำร้อง ตามรัฐธรรมนูญ มาตา 213 นายพิมล กล่าวว่า มาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของการกระทำที่กระทบสิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งตรงนี้ศาลได้วางแนวทางและหลักเกณฑ์การพิจารณาว่าผ่านการพิจารณาการเยียวยาจากองค์กรที่เกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลลำบากใจ และต้องระมัดระวังในการพิจารณา เพราะหากใช้อำนาจกว้างมากเกินไป ก็อาจไปกระทบอำนาจหน้าที่ขององค์กรอื่น ขณะนี้อยู่ในระหว่างที่ กรธ. กำลังยกร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป.- สำนักข่าวไทย