ทำเนียบฯ 2 ส.ค.- รมว.คลังคาดหวังให้กองทุนหมุนเวียนใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานมอบรางวัล “ทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2560” เพื่อให้ส่วนราชการบริหารจัดการทุนหมุนเวียน สอดรับนโยบาย Thailand 4.0 โดยมองว่า จากขนาดทุนหมุนเวียนของส่วนราชการ 116 ทุน มูลค่าสินทรัพย์ ณ 30 พฤษภาคม 2560 จำนวน 3.738 ล้านล้านบาท สูงกว่างบประมาณของประเทศที่มีจำนวน 2.9 ล้านล้านบาท ยอมรับว่า เป็นสิ่งที่ดีต่อการเกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการเงินทุนหมุนเวียน เพื่อใช้เงินช่วยเหลือในส่วนต่างๆนอกจากเงินปกติของส่วนราชการ ทั้งด้านการช่วยเหลือเกษตรกร ด้านการวิจัย ด้านคมนาคม ดังนั้น คณะกรรมการกองทุนต้องดูแลการใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
” หลัง พ.ร.บ.ทุนหมุนเวียน ผ่านความเห็นชอบจากสภา สนช. รอประกาศบังคับใช้จะกำหนดให้ทุนหมุนเวียนของส่วนราชการ บริหารเงินกองทุนของแต่ละส่วนราชการไม่ซ้ำซ้อน หากซ้ำซ้อนต้องยุบเลิกหรือแปลงภารกิจข้ามกระทรวง และหากกองทุนใดใช้เงินไม่หมดจะออกกฎหมายลูกคำนวณการนำส่งคืนเข้าคลัง เพื่อนไปใช้ให้เกิดประโยชน์จากการฝากแบงก์รับดอกเบี้ย” นายอภิศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ยอมรับว่า การพัฒนาประเทศต้องมีพื้นฐานจากการวิจัยและพัฒนา เห็นได้จากหลายประเทศแซงหน้าประเทศไทยเพราะได้มุ่งวิจัยและพัฒนามาหลายปี การวางแผนพัฒนาประเทศในระยะยาวจจึงมีความจำเป็น รัฐบาลจึงเน้นมุ่งพัฒนาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่อปรับสิ่งที่เด็กนักเรียน นักศึกษาคิดค้น นำมาปรับใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ การมอบรางวัลประจำปี 60 นับเป็นเครื่องมือเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทุนหมุนเวียน ปรับปรุงองค์กร การบริหารความเสี่ยง การตรวจสอบภายใน เพื่อต้องการให้กองทุนหมุนเวียนดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579)
นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตสุรา ยาสูบ เบียร์ ร้อยละ 2 เพื่อจัดสรรให้กองทุนผู้สูงอายุ ประมาณ 4 พันล้านบาท และยังคาดจะมีผู้สูงอายุรายได้สูงจะเสียสละไม่รับเบี้ยผู้สูงอายุจำนวนมาก หวังช่วยเหลือผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อย เมื่อสำนักงบประมาณจัดสรรเงินเข้ากองทุนสวัสดิการแห่งรัฐวเงิน 46,000 ล้านบาท คาดว่าจะนำแนวทางการจัดสวัสดิการให้กับผู้มีรายนได้น้ยอที่ลงทะเบียนเสนอ ครม.พิจารณาเห็นภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า.- สำนักข่าวไทย